สุนัขบีเกิล Beagle

สุนัขบีเกิล Beagle

สุนัขบีเกิล Beagle เป็นสุนัขขนาดเล็กถึงกลาง มีขนสั้นเรียบ มีสีสันหลากหลาย ได้แก่ สีขาว ดำ น้ำตาล และ แทน อุปนิสัยของน้องบีเกิลนั้นมีความเป็นมิตร ชอบเล่น ฉลาด และมีจิตใจสดใส น้องมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษ เดิมทีเลี้ยงไว้เพื่อล่าสัตว์ขนาดเล็ก เช่น กระต่าย และ สุนัขจิ้งจอก ซึ่งสัญชาตญาณนี้อาจทำให้น้องวอกแวกเวลาได้กลิ่นระหว่างเดินเล่นข้างนอก ดังนั้นผู้เลี้ยงควรให้น้องสวมสายจูงเพื่อป้องกันไม่ให้น้องเดินหลงทางไกลเกินไป แม้ในปัจจุบันจะใช้เพื่อการล่าเหยื่ออยู่ แต่น้องก็ยังได้รับความนิยมให้เป็นสุนัขเลี้ยงด้วย น้องเป็นสุนัขที่ไม่ต้องการการดูแลมากนัก ต้องการออกกำลังกายเป็นประจำและแปรงขนเท่านั้น

การฝึกฝนสำคัญมากสำหรับน้องบีเกิล และความฉลาดทำให้น้องเรียนรู้ได้ไว แต่น้องก็มีความคิดเป็นของตัวเองและอาจมีนิสัยดื้อด้านบ้าง โดยเฉพาะเวลาได้กลิ่นหอมๆ ระหว่างฝึก การใช้ของรางวัลโดยเฉพาะอาหารอร่อยๆ จะได้ผลดีเป็นพิเศษ นิสัยที่เป็นมิตรและรักใคร่ของน้องนั้นส่งผลดีต่อสัตว์อื่นๆ ด้วย น้องบีเกิลเข้ากับสุนัขและแมวตัวอื่นได้ดี โดยเฉพาะถ้าได้อยู่ด้วยกันตั้งแต่ยังเล็ก การปรับตัวให้เข้าสังคมแต่เนิ่นๆ และประสบการณ์ที่ดีกับสัตว์อื่นๆ จะยิ่งช่วยส่งเสริมนิสัยที่น่ารักน่าชังนี้ได้

บทความนี้ แอดแบรี่จะพาเพื่อนๆไปสู่โลกของน้องบีเกิล นะคะทั้งอาหารการกิน การเลี้ยงดูน้องๆให้แข็งแรง การรักษาน้องยามเจ็บป่วย อย่างครบถ้วนสมบูรณ์เลยค่ะ

Discount Banner

แอมบลิโกไนต์ Amblygonite โลโดไรท์ Lodolite โลโดไรท์ Lodolite
7-11 logo Logo-Shopee Lazada-Logo

ข้อมูลทั่วไปสุนัขบีเกิล

ข้อมูลทั่วไป

logo
ถิ่นกำเนิด ประเทศอังกฤษ
ขนาด สูง 0.33-0.38 ม. ที่ไหล่ หนัก 9.07-13.61 กก. สุนัขบีเกิลขนาดเล็กจะตัวเล็กกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อย น้ำหนัก 3.18-6.80 กก.
อายุขัย 10-15 ปี
กลุ่มพันธุ์ กลุ่มสุนัขล่าเนื้อ
อุปนิสัย เป็นมิตร ใจดี ชอบเล่น อยากรู้อยากเห็น
ความต้องการแปรงขน ต่ำ ต้องแปรงขนเป็นประจำทุกสัปดาห์
ปัญหาสุขภาพ ข้อสะโพกเสื่อม ข้อศอกเสื่อม ปัญหาตา ภูมิแพ้
ข้อมูลพิเศษ น้องบีเกิลมักเห่าเสียงแหลมสูงเวลาตื่นเต้นหรือตามล่ากลิ่น
ข้อมูลพิเศษ สนู้ปี้ ตัวละครในการ์ตูนชื่อดังเป็นสุนัขพันธุ์บีเกิล
ข้อมูลพิเศษ อดีตประธานาธิบดีลินดอน บี. จอห์นสันเคยเลี้ยงสุนัขบีเกิลถึง 4 ตัว
ข้อมูลพิเศษ Shiloh เป็นนวนิยายเยาวชนที่ได้รับรางวัลระดับชาติ เนื้อเรื่องเกี่ยวกับเด็กชายคนหนึ่งที่ผูกพันกับน้องบีเกิลจรจัดชื่อ Shiloh นิยายเรื่องนี้เน้นเรื่องความเห็นอกเห็นใจ ความจงรักภักดี และความผูกพันระหว่างคนกับสัตว์

การเลี้ยงดูบีเกิล

เนื่องจากมีนิสัยใจเย็น ต้องการออกกำลังกายพอประมาณ และแทบไม่ต้องแปรงขน สุนัขบีเกิลจึงไม่ค่อยต้องคอยดูแลมากมาย เลี้ยงง่ายกว่าหลายๆ พันธุ์ ต้องการแค่การดูแลขั้นพื้นฐาน เช่น แปรงขนบ้าง อาบน้ำ และตัดเล็บเป็นประจำ ร่วมกับอาหารที่เหมาะสมก็พอ แต่ก็น่าสังเกตว่าน้องบีเกิลน่ารักและภักดีมากกับเจ้าของ ถึงขั้นติดเจ้าของเลยล่ะ ไม่ควรทิ้งน้องไว้ที่บ้านคนเดียวนานๆ เพราะอาจทำให้น้องเครียดจากการแยกจากเจ้าของได้

 

ภาพรวมของสุนัขบีเกิล

เป็นเรื่องยากที่จะต้านทานเสน่ห์ของดวงตาสีน้ำตาลเข้มหรือสีเฮเซลของน้องบีเกิล ประกอบกับสีหน้าอ่อนหวานเว้าวอน น้องให้ความรู้สึกถึงความมีความสุข ความเป็นมิตร ความรัก ควบคู่ไปกับสัญชาตญาณนักล่าที่ทำให้น้องช่างสงสัยใคร่รู้ มุ่งมั่น และหมกมุ่นกับอาหารอย่างมาก แม้จะไม่ชอบเห่ามากนักแต่น้องมีเสียงร้องสามแบบคือ เสียงเห่าปกติ/คำราม, เสียงหอนเหมือนล่าเหยื่อ, และเสียงหอนครึ่งๆ ซึ่งมักใช้เวลาเห็นเหยื่อหรือเวลาคิดจะปลุกให้คนแถวบ้านตื่นตอนตีหก สุนัขบีเกิลเป็นสุนัขฝูง เข้ากับสัตว์อื่นได้ง่าย และพร้อมจะสนิทกับคนแปลกหน้า

ลักษณะที่โดดเด่นที่สุดของบีเกิลก็คือสัญชาตญาณการล่าเหยื่อนั่นเอง จมูกของน้องมักจะเชิดชูและอยู่ใกล้พื้นดินเสมอ คอยสูดดมหากลิ่นน่าสนใจที่จะตามล่า ด้วยจำนวนเซลล์รับกลิ่นประมาณ 220 ล้านเซลล์ เทียบกับของมนุษย์ที่มี แค่ประมาณ 5 ล้านเซลล์ บีเกิลจึงมีความสามารถในการดมกลิ่นที่ยอดเยี่ยม Dave Barry เคยพูดติดตลกถึงสุนัขบีเกิลของพ่อตาแม่ยายเขาว่า “มันคือจมูกที่มีขาสี่ข้าง” ความสามารถในการดมกลิ่นอันเหลือเชื่อนี้ทำให้เราพบเห็นสุนัขบีเกิลในสนามบินบ่อยๆ โดยน้องจะลาดตระเวนตรวจหาอาหารต้องห้ามตามสายพานกระเป๋า รูปร่างที่เล็ก เป็นมิตร และน่ารักของน้องทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลาย ทำให้น้องมุ่งความสนใจไปที่อาหารเฉพาะอย่างได้โดยไม่สนใจสิ่งของอื่นๆ

นอกจากนี้ สุนัขบีเกิลก็ยังเป็นนักล่าสัตว์ขนาดเล็กตัวยงอีกด้วย การแข่งขันประลองความสามารถในการล่าเหยื่อของสโมสรบีเกิลแห่งชาติ และกิจกรรมคล้ายๆ กันในอีกหลายประเทศ เป็นเหมือนบททดสอบความสามารถในการล่าเหยื่ออันยอดเยี่ยมของน้องบีเกิล

สุนัขบีเกิลนั้นสามารถปรับตัวเข้ากับการอยู่ในอพาร์ตเมนต์ได้ หากได้รับการพาไปเดินเล่นด้วยสายจูงวันละหลายๆ ครั้ง ไม่ว่าอากาศจะเป็นอย่างไรก็ตาม น้องจะมีความสุขหากได้ออกกำลังกายวันละประมาณหนึ่งชั่วโมง ถ้าออกกำลังกายและเล่นไม่เพียงพอ อาจแสดงพฤติกรรมทำลายข้าวของหากถูกทิ้งไว้ลำพังนานเกินไป

 

ประวัติสุนัขบีเกิล

ที่มาของคำว่า “beagle” ไม่ชัดเจนนัก ทฤษฎีหนึ่งระบุว่าอาจมาจากภาษาฝรั่งเศสคำว่า “begueule” ที่แปลว่าลำคอเปิด หรือจากภาษาอังกฤษเก่าคำว่า “beag” ซึ่งแปลว่าเล็ก บ้างก็ว่ามาจากคำในภาษาฝรั่งเศสว่า “beugler” ที่แปลว่าคำราม หรือคำในภาษาเยอรมันว่า “begele” ที่แปลว่าด่าทอ

ประวัติความเป็นมาของสายพันธุ์บีเกิลนั้นค่อนข้างคลุมเครือ เนื่องจากแนวคิดของสายพันธุ์สมัยใหม่อย่างที่เรารู้จักกันในปัจจุบันนั้นยังไม่ชัดเจนนักจนกระทั่งศตวรรษที่ 19 มีการกล่าวถึงสุนัขคล้ายบีเกิลในเอกสารของกรีกโบราณเมื่อ 400 ปีก่อนคริสตกาล และเชื่อกันว่าชาวโรมันนำสุนัขล่ากระต่ายพันธุ์เล็กมาอังกฤษ และผสมกับสุนัขล่าเนื้อท้องถิ่น บางทีสุนัขพวกนี้อาจเป็นบรรพบุรุษของสุนัขบีเกิลและฟ็อกซ์ฮาวด์ก็เป็นได้ โดยวิลเลียมผู้พิชิตนำสุนัขพวกนี้เข้ามาในอังกฤษช่วงการรุกรานของนอร์มันในปี 1066

บีเกิลเป็นที่นิยมในอังกฤษตั้งแต่ต้นประวัติศาสตร์แล้ว ในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 และ เฮนรี่ที่ 7 น้องบีเกิลขนาดเล็กพอดีมือนั้นกำลังเป็นที่นิยมมาก เรียกว่าบีเกิลถุงมือ (Glove Beagle) และยังมีสุนัขบีเกิลที่เรียกว่าบีเกิลนักร้อง (Singing Beagle) ที่มีเสียงไพเราะด้วย ในรัชสมัยของราชินีอลิซาเบธที่ 1 ก็เลี้ยงสุนัขบีเกิลขนาดเล็กจิ๋วไว้เป็นกลุ่ม เรียกว่าพ็อกเก็ตบีเกิล (Pocket Beagle) มีความสูงแค่ 9 นิ้ว มีขาสั้นและจมูกแหลม แต่หลังจากนั้นสุนัขบีเกิลก็เสื่อมความนิยมลงเพราะวิ่งช้าเกินไป

ในช่วงปี 1700 สุนัขฟ็อกซ์ฮาวด์ได้แทนที่สุนัขบีเกิลในอังกฤษ เนื่องจากการล่าสุนัขจิ้งจอกเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ถ้าไม่ได้เกษตรกรในอังกฤษ ไอร์แลนด์ และเวลส์รักษาสายพันธุ์บีเกิลไว้เพื่อล่ากระต่ายและเนื้อ ป่านนี้สุนัขบีเกิลอาจจะสูญพันธุ์ไปแล้ว

ในช่วงกลางปี 1800 บาทหลวงฟิลิป ฮันนีวูด ได้ก่อตั้งกลุ่มสุนัขบีเกิลในเอสเซ็กซ์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นบรรพบุรุษของสุนัขบีเกิลสมัยใหม่ บาทหลวงฮันนีวูดเน้นที่ความสามารถในการล่าเนื้อ ไม่ได้พิถีพิถันกับหน้าตามากนัก ในขณะเดียวกัน ผู้เพาะพันธุ์ในอเมริกาก็ได้นำบีเกิลจากอังกฤษมาเพื่อปรับปรุงลักษณะภายนอกของสุนัขบีเกิลที่เขามีอยู่ จนได้บีเกิลที่ตัวเล็กกว่าเดิมเพื่อใช้ในการล่ากระต่าย จนกลายเป็นสายพันธุ์ “แพตช์” (Patch) ซึ่งโดดเด่นด้วยจุดสามสีขนาดใหญ่และความเร็วในการวิ่ง

ในปี 1884 มีการก่อตั้งสมาคมสุนัขพันธุ์อเมริกัน (AKC) และสมาคมสุนัขบีเกิลแห่งแรกขึ้น และในปีเดียวกันนั้นเอง AKC ก็เริ่มจดทะเบียนสุนัขบีเกิล ต่อมาในปี 1916 สมาชิกของสมาคมสุนัขบีเกิลแห่งชาติได้ซื้อที่ดินในรัฐเวอร์จิเนียเพื่อจัดการแข่งขันสนามในเวลาต่อมา ปัจจุบันยังคงเป็นสถานที่สำคัญของสมาคมสุนัขบีเกิลแห่งชาติในการจัดกิจกรรมต่างๆ อีกมากมาย

ขนาดของสุนัขบีเกิล

สมาคมสุนัขพันธุ์อเมริกันแบ่งสุนัขบีเกิลออกเป็นสองขนาดตามความสูง บีเกิลขนาด 13 นิ้ว เป็นสุนัขที่สูงไม่เกิน 33.02 ซม. ที่ไหล่ ส่วนบีเกิลขนาด 15 นิ้ว คือสุนัขที่สูงระหว่าง 33.02-38.10 ซม.  ที่ไหล่ โดยแล้วแต่ขนาดความสูง น้ำหนักของสุนัขบีเกิลจะอยู่ระหว่าง 8.1-13.6 กก.

 

บุคลิกของสุนัขบีเกิล

สุนัขบีเกิลมีนิสัยอ่อนโยน อารมณ์ดี และชอบสร้างเสียงหัวเราะ อย่างไรก็ตามพฤติกรรมซุกซนของน้องก็อาจนำมาซึ่งความหงุดหงิดบ้างเป็นครั้งคราว เจ้าของบีเกิลมักพบว่าตัวเองต้องหาทางฉลาดกว่าเจ้าตูบผู้ชาญฉลาด และต้องใช้อาหารล่อเพื่อให้น้องเชื่อฟังชั่วคราว เหมือนสุนัขทุกพันธุ์ การเข้าสังคมแต่เนิ่นๆเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบีเกิล การให้น้องได้พบปะผู้คน สถานที่ เสียง และประสบการณ์ที่หลากหลายในวัยเด็ก จะช่วยให้น้องเติบโตขึ้นเป็นสุนัขที่มีวุฒิภาวะและสมดุล

บุคลิกภาพทั่วไปสุนัขบีเกิล

ข้อมูลทั่วไป

logo
การปรับตัว ปานกลาง
ความเป็นมิตรในทุกด้าน มากที่สุด
ความต้องการดูแลด้านสุขภาพและการเกลี่ยขน ปานกลาง
ความสามารถในการฝึก มาก
ความต้องการออกกำลังกาย มากที่สุด

 

สุขภาพของสุนัขบีเกิล

แม้ว่าบีเกิลทุกตัวจะไม่ได้เป็นโรคที่กล่าวถึงทั้งหมด แต่ก็ควรตระหนักถึงความเป็นไปได้ของโรคเหล่านี้หากคุณกำลังพิจารณาเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้

ภาวะข้อสะโพกเสื่อม (Hip Dysplasia): ความผิดปกติทางพันธุกรรมที่ทำให้กระดูกต้นขาไม่เข้ากับข้อสะโพกได้พอดี ทำให้เกิดอาการเจ็บและขากะเผลก สามารถตรวจสอบโดยการเอกซ์เรย์ ผู้ที่ทำการเพาะพันธุ์ควรหลีกเลี่ยงนำสุนัขที่เป็นโรคนี้มาผสมพันธุ์
Cherry Eye: เป็นโรคที่ต่อมใต้เปลือกตาที่สามยื่นออกมา ต้องรักษาโดยการผ่าตัดเอาออก
ต้อหิน (Glaucoma): โรคตาที่ทำให้ความดันในตาสูงผิดปกติ ส่งผลให้สายตาเสื่อมและตาบอด เป็นได้ทั้งทางพันธุกรรมหรือเนื่องจากปัจจัยอื่น
Progressive Retinal Atrophy (PRA): ความผิดปกติของจอประสาทตาที่ก่อให้เกิดภาวะตาบอดเนื่องจากเซลล์รับแสงถูกทำลาย
Distichiasis: ขนตาเพิ่มที่งอกจากต่อมไขมันในตา ทำให้ตาระคายเคืองจนต้องลืมตาแคบ การรักษาต้องผ่าตัดเอาออก
โรคลมชัก (Epilepsy): ความผิดปกติทางระบบประสาทที่ทำให้เกิดอาการชักเกร็ง ซึ่งสามารถควบคุมอาการได้ด้วยการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม
โรคพร่องไทรอยด์ฮอร์โมน (Hypothyroidism): ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ สามารถรักษาได้โดยการให้ยาและปรับอาหาร
Patellar Luxation: ลูกสะบ้าเคลื่อนตำแหน่ง ทำให้ขากะเผลกและอาจเป็นโรคข้ออักเสบ ระดับความรุนแรงแตกต่างกัน บางรายอาจต้องผ่าตัดรักษา
โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม (Intervertebral Disc Disease): โรคหมอนรองกระดูกสันหลัง ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวรองระหว่างกระดูกสันหลังเสื่อมสภาพ ทำให้เกิดอาการปวด อ่อนแรง และอาจอัมพาตได้

เมื่อซื้อลูกสุนัขบีเกิล ควรตรวจสอบใบรับรองสุขภาพของพ่อแม่สุนัขจากผู้เพาะพันธุ์ รวมถึงผลตรวจโรคข้อสะโพกเสื่อม ข้อศอกเสื่อม โรคพร่องไทรอยด์ฮอร์โมน von Willebrand’s disease, โรคเกร็ดเลือดต่ำ และผลตรวจสายตาปกติจากสถาบัน Canine Eye Registry Foundation (CERF) ไว้ด้วย การเตรียมพร้อมเผื่อค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่อาจเกิดขึ้นตลอดชีวิตของสุนัขเป็นเรื่องสำคัญ ประกันสุขภาพสัตว์เลี้ยงอาจช่วยคุณได้

การดูแลสุนัขบีเกิล

การมีสวนหลังบ้านที่ล้อมรั้วเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสุนัขล่าเนื้อเช่นบีเกิล เวลาอยู่ข้างนอก ควรจูงสายหรือให้อยู่ในบริเวณที่ปิดมิดชิด บีเกิลมักคิดจะหลบหนีตามสัญชาตญาณอยู่เสมอ จึงเป็นเรื่องปกติที่น้องจะพยายามหาทางออก เพื่อให้มั่นใจว่าจะตามตัวน้องเจอได้ทันทีถ้าหาย ควรฝังไมโครชิพและใส่ป้ายชื่อที่ปลอกคอน้องเอาไว้ บางคนใช้รั้วไฟฟ้าใต้ดินแต่ก็อาจไม่สามารถกันสัตว์อื่นเข้ามาได้ และกลิ่นหอมน่าสนใจอาจล่อให้น้องลืมกลัวไฟช็อตชั่วครู่ได้

การฝึกหัดเชื่อฟังเป็นเรื่องดีสำหรับสุนัขทุกตัว โดยบีเกิลจะตอบสนองต่อเทคนิคการเสริมแรงด้านบวกได้ดีที่สุด น้องอาจไม่ยอมตอบสนองเลยหากถูกกระทำด้วยความรุนแรง อาหารรางวัลเป็นแรงจูงใจที่ดีเยี่ยมที่ทำให้น้องบีเกิลส่วนใหญ่กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และทำตามคำสั่ง

ลูกบีเกิลวัยรุ่นมักมีพลังงานล้นเหลือ และต้องการช่องทางในการปลดปล่อยออกมา น้องชอบไปเดินเล่นกับครอบครัวหรือวิ่งเล่นในลานหญ้าเพื่อตอบสนองสัญชาตญาณการล่า (แม้ว่าการฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งจะเป็นเรื่องสำคัญก่อนที่จะปล่อยน้องวิ่งเล่นได้อย่างอิสระก็ตาม) คุณยังสามารถพาน้องไปวิ่งจ๊อกกิ้งได้ แต่ควรรอให้น้องอายุอย่างน้อย 18 เดือนก่อนสำหรับกิจกรรมที่ต้องใช้การวิ่งซ้ำๆ แบบนี้

เมื่อสุนัขบีเกิลเติบโตขึ้น น้องอาจกลายเป็นสุนัขเฉื่อยและพอใจกับการนอนอยู่บ้านทั้งวัน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องป้องกันไม่ให้น้องขี้เกียจและอ้วนเกินไป เพราะน้องมีแนวโน้มเป็นโรคอ้วนได้ง่าย การออกกำลังกายสม่ำเสมอและการควบคุมอาหารจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้น้องบีเกิลมีสุขภาพดีและมีความสุข

การให้อาหารสุนัขบีเกิล

ปริมาณอาหารแห้งคุณภาพดีที่แนะนำให้เลี้ยงสุนัขบีเกิลต่อวันคือ 0.75 ถึง 1.5 ถ้วย แบ่งออกเป็นสองมื้อ อย่างไรก็ตาม ปริมาณอาหารที่ให้จริงสำหรับสุนัขในวัยผู้ใหญ่อาจแตกต่างกันตามขนาด อายุ โครงสร้างร่างกาย การเผาผลาญ และระดับการออกกำลังกาย ไม่ต่างจากมนุษย์ สุนัขแต่ละตัวก็มีความต้องการอาหารที่ไม่เหมือนกัน สุนัขที่ออกกำลังกายมาก ย่อมต้องการอาหารมากกว่าสุนัขที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย คุณภาพของอาหารสุนัขก็มีความสำคัญเช่นกัน อาหารคุณภาพดีจะให้คุณค่าทางโภชนาการสูงกว่า ทำให้คุณอาจจำเป็นต้องให้อาหารกับสุนัขน้อยลง

สุนัขบีเกิลมีชื่อเสียงในฐานะนักขโมยอาหารตัวยง และสามารถงัดเข้าไปในตู้เก็บของหรือถังขยะได้หากมีโอกาส น้องมักจะมีความอยากอาหารมาก และจะกินจนกว่าจะอิ่ม เพื่อรักษาน้ำหนักที่เหมาะสม ให้ตวงอาหารและให้กินวันละสองมื้อ แทนที่จะปล่อยให้กินได้ตลอดเวลา หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับน้ำหนักตัวของน้อง คุณสามารถทดสอบด้วยการมองและการสัมผัส ให้มองจากด้านบนลงมา คุณควรมองเห็นรอบเอวของน้องได้ วางมือลงบนหลังของน้อง โดยให้นิ้วหัวแม่มืออยู่ตามแนวกระดูกสันหลังและกางนิ้วลง คุณควรจะรู้สึกโครงกระดูกซี่โครงได้โดยไม่ต้องกดแรงมาก หากคลำกระดูกซี่โครงไม่ง่าย แสดงว่าน้องอาจต้องการอาหารน้อยลงและออกกำลังกายมากขึ้น สำหรับขนม ก็ควรให้น้อยๆ ขนมสำหรับการฝึกขนาดเล็กก็ได้ผลเหมือนขนมชิ้นใหญ่เช่นกัน

ลักษณะขนและการดูแลขนของสุนัขบีเกิล

ตามมาตรฐานสายพันธุ์ สุนัขบีเกิลสามารถมีสีขนได้หลากหลายแบบ “เหมือนสุนัขล่าเนื้อทั่วไป” อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่มักจะมีลายสามสี มีลายเหมือนอานสีดำบนหลัง ขายาวสีขาว อกและท้องสีขาว ปลายหางสีขาว และมีลายสีน้ำตาลรอบหัวและอาน สีที่พบบ่อยอีกแบบหนึ่งคือแดงกับขาว ในลักษณะจุดสีแบบไอริช บนใบหน้า คอ ขา และปลายหาง ไม่ว่าจะสีอะไร บีเกิลส่วนใหญ่จะมีปลายหางสีขาว เพื่อให้มองเห็นได้ง่ายแม้อยู่ในหญ้าสูงขณะล่าเหยื่อ

สุนัขบีเกิลมีขนสองชั้นสั้นเรียบแน่น กันน้ำได้ดี แนะนำให้แปรงขนอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งด้วยแปรงขนปานกลางหรือถุงมือแปรงขนสุนัข เพื่อช่วยให้ขนที่ตายแล้วหลุดออกและกระตุ้นการงอกของขนใหม่ แม้บีเกิลจะผลัดขน แต่ขนสั้นทำให้สังเกตได้ไม่ชัดเจนนัก โดยขนจะหนาขึ้นในช่วงฤดูหนาว ทำให้ผลัดขนมากขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แม้โดยปกติบีเกิลจะเป็นสุนัขที่ค่อนข้างสะอาด แต่บางครั้งน้องก็อาจอยากไปกลิ้งเล่นในสิ่งสกปรก เนื่องจากเป็นสุนัขหูตก จึงต้องให้ความสำคัญกับการดูแลหูเป็นพิเศษเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ตรวจหูของน้องเป็นประจำ ดูว่ามีอาการติดเชื้อหรือขี้หูสะสมหรือไม่ อย่าให้น้ำหรือน้ำมันเข้าหูเด็ดขาด

การดูแลสุขภาพฟันเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับบีเกิล แปรงฟันให้น้องอย่างน้อยสัปดาห์ละสองถึงสามครั้งเพื่อป้องกันหินปูนเกาะและรักษาสุขอนามัยในช่องปากให้ดี ยิ่งแปรงฟันทุกวัน จะช่วยป้องกันโรคเหงือกและกลิ่นปากได้ดียิ่งขึ้น ควรตัดเล็บเป็นประจำเพื่อป้องกันการฉีกขาดอย่างเจ็บปวดและปัญหาอื่นๆ หากไม่มีประสบการณ์ในการตัดเล็บ ให้ขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์หรือช่างตัดแต่งขนสุนัข

เริ่มทำให้สุนัขบีเกิลคุ้นเคยกับการแปรงขนและการตรวจร่างกายตั้งแต่ยังเด็ก ให้สัมผัสอุ้งเท้าบ่อยๆ เพื่อให้น้องคุ้นเคยกับความรู้สึก และตรวจดูในปากเป็นประจำ ประสบการณ์ที่ดีระหว่างการแปรงขน พร้อมคำชมและรางวัล จะทำให้การไปหาหมอและการจับตัวง่ายขึ้นเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ขณะแปรงขนให้ตรวจหาแผล ผื่น หรือสัญญาณของการติดเชื้อที่ผิวหนัง จมูก ปาก ดวงตา และอุ้งเท้า การตรวจเช็คอย่างละเอียดทุกสัปดาห์จะช่วยให้คุณสังเกตเห็นปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เนิ่นๆ

ความสัมพันธ์ระหว่างสุนัขบีเกิล เด็ก และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ

สุนัขบีเกิลผูกพันกับทุกคนในครอบครัวอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะกับเด็กๆ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากนิสัยชอบเล่น บางครั้งน้องอาจเล่นด้วยท่าทางรุนแรงไปหน่อยระหว่างเล่น การฝึกให้เข้าสังคมและการเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะเมื่ออยู่กับเด็กเล็ก บีเกิลอาจแสดงพฤติกรรม “ช่างปาก” คือชอบคาบหรือกัดสิ่งของต่างๆ รวมถึงมือด้วยนะ แม้มักทำไปด้วยความสนุกสนาน แต่ก็สามารถฝึกให้เลิกพฤติกรรมนี้ได้ เหมือนสุนัขทุกพันธุ์ ควรสอนให้เด็กๆ รู้ว่าจะเข้าหาและมีปฏิสัมพันธ์กับสุนัขอย่างไร และควรคอยดูแลการเล่นด้วยกันอยู่เสมอ

ควรสอนเด็กๆ ไม่ให้ไปรบกวนสุนัขขณะกินอาหารหรือนอนหลับ และไม่ควรพยายามแย่งอาหารจากปากสุนัข ไม่ว่าในกรณีใดๆ ไม่ควรปล่อยให้สุนัขอยู่กับเด็กตามลำพัง โดยไม่มีผู้ใหญ่คอยดูแล สุนัขบีเกิลมีลักษณะนิสัยเป็นสัตว์ฝูง ทำให้น้องเป็นมิตรกับผู้คน และชอบอยู่เป็นกลุ่ม น้องไม่ชอบอยู่คนเดียวเป็นเวลานาน การมีสุนัขหรือแม้แต่แมวอีกตัวหนึ่งมาอยู่เป็นเพื่อนเล่น จะช่วยตอบสนองความต้องการผู้ร่วมเดินทางของน้องได้

เจ้าของสุนัขบีเกิลจะต้องคอยจัดการกับพฤติกรรมเห่าเสียงดังของน้อง ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อด้อย ข้อดีก็คือน้องจะเตือนให้คุณรู้เวลามีใครเข้ามาในเขตบ้านหรือสวน แต่ข้อเสียก็คือน้องชอบทำเสียงดังไปหมด ไม่ว่าจะเป็นคนส่งของ เพื่อนบ้าน หรือแมวข้างถนน ในขณะที่การเห่าเป็นพฤติกรรมปกติของสุนัข การฝึกฝนสามารถช่วยควบคุมเสียงเห่าเกินจำเป็นได้ ให้รางวัลโดยอาจให้อาหารเมื่อน้องเงียบเสียงลงหลังเห่าสักสองสามครั้ง มีเจ้าของสุนัขบีเกิลหลายคนใช้อุปกรณ์ฝึกหัดอย่างเครื่องปล่อยคลื่นความถี่สูงที่มีเซนเซอร์ตรวจจับเสียงเห่า เมื่อน้องเห่าเสียงดังเกินระดับเซนเซอร์จะปล่อยคลื่นแทรกเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของน้อง

การฝึกสุนัขให้เชื่อฟังคำสั่งยังช่วยหยุดเสียงเห่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อน้องเริ่มเห่าให้พูดว่า “หยุด” ด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด เมื่อน้องหยุดเห่าแม้เป็นเวลาไม่กี่วินาที ให้ชมน้องด้วยน้ำเสียงสดใสและมอบรางวัลทันที ทำซ้ำอีกหลายๆ ครั้งจนน้องเข้าใจว่าการหยุดเห่าเมื่อได้ยินคำว่า “หยุด” จะทำให้ได้รางวัล สิ่งสำคัญคือต้องสม่ำเสมอ ถ้าบางครั้งสนใจแต่บางครั้งก็ไม่ใส่ใจ จะทำให้น้องสับสน และกลายเป็นการตอกย้ำพฤติกรรมเห่ามากขึ้น ให้จำไว้ว่าการให้กำลังใจในทางบวกจะได้ผลกับน้องบีเกิลมากที่สุด ไม่ควรลงโทษน้องหรือตบปาก เพราะจะทำให้น้องหวาดกลัวและไม่ไว้ใจคุณได้

สรุปสุนัขบีเกิล

สุนัขบีเกิลเป็นเพื่อนร่วมทางที่แสนวิเศษ มีนิสัยร่าเริงสดใส เป็นมิตร และซื่อสัตย์ภักดี น้องเข้ากับผู้คนและสัตว์อื่นๆ ได้ดี เป็นสุนัขที่ฉลาดและสามารถฝึกฝนได้ ถ้าใช้เทคนิคการเสริมแรงบวก น้องมีพลังงานสูงและต้องการการออกกำลังกายเป็นประจำ การพาน้องไปเดินเล่นหรือวิ่งเล่นจะช่วยระบายพลังงานของน้องได้ นอกจากนี้ การเล่นเกมค้นหาหรือกีฬาสุนัขอย่างอะจิลิตี้ก็ช่วยกระตุ้นทั้งร่างกายและสมองของน้องได้เป็นอย่างดี

แม้บีเกิลจะไม่ใช่สุนัขที่เหมาะกับทุกบ้าน แต่สำหรับผู้ที่ต้องการสุนัขที่เป็นมิตร ร่าเริง และพร้อมจะร่วมผจญภัยไปกับคุณ สุนัขบีเกิลก็เป็นเพื่อนที่น่าทึ่งเลยล่ะ ด้วยการฝึกฝนและเอาใจใส่ดูแลอย่างเหมาะสม น้องบีเกิลจะเป็นสมาชิกในครอบครัวที่แสนน่ารักและภักดีตลอดไป ถ้าคุณพร้อมที่จะมอบความรักและเวลาให้กับน้อง สุนัขบีเกิลจะตอบแทนคุณด้วยมิตรภาพและความจงรักภักดีไปชั่วชีวิตเลยล่ะ

 

น้องหมาอยากบอก

เจ้านายที่รักจ๋า อย่าลืมซื้ออาหารอร่อยๆ ให้หนูนะ น้องหิวแล้ว แล้วอย่าลืมของเล่นสนุกๆที่น้องชอบด้วยล่ะ และขอขนมแสนอร่อยที่หนูชื่นชอบด้วยนะโฮ่ง มันช่วยให้มีความสุขและพลังงานเต็มเปี่ยม อ้อ…อย่าลืมถุงเก็บอึสะอาดๆ ด้วยล่ะ ช่วยให้น้องขับถ่ายถูกที่ เจ้าของก็สบายใจ หนูรอของดีๆ จากเจ้านายอยู่นะ ปล.ถ้าไม่มีของพวกนี้ให้ หนูจะงอนเอานะ แต่เอ…จำไม่ได้ว่าบ้านเราใช้ยี่ห้อไหน เจ้านายที่รักลองกดเช็คของเลยนะครับ โบ๊ะ โบ๊ะ

รอยัลคานิน Royal Canin    โรยัล คานิน (Royal Canin) shoppee button lazada button
คานิวา Kaniva    คานิว่า (Kaniva) shoppee button lazada button
วิสกัส Whiskas    วิสกัส (Whiskas) shoppee button lazada button
ทิฟฟานี่ Tiffany    ทิฟฟานี่ (Tiffany) shoppee button lazada button
มีโอ Me-O    มีโอ (Me-O) shoppee button lazada button
เพียวริน่าวัน Purina ONE    เพียวริน่า วัน (Purina ONE) shoppee button lazada button
 ฮิลส์ Hill’s    ฮิลส์ (Hill’s) shoppee button lazada button
เน็กโกะ คิทเท่น Nekko Kitten    เน็กโกะ คิทเท่น (Nekko Kitten) shoppee button lazada button
ออริเจ็น Orijen    ออริเจ็น (Orijen) shoppee button lazada button
แม็กซิม่า Maxima    แม็กซิม่า (Maxima) shoppee button lazada button

Dog Breed Banner

Reference: แหล่งที่มา