สุนัขบูลด็อก Bulldog
สุนัขบูลด็อก Bulldog หรือที่รู้จักกันในชื่อ English Bulldog มีถิ่นกำเนิดในประเทศอังกฤษ จัดอยู่ในกลุ่มสุนัขทำงาน มีอายุขัยเฉลี่ย 8-12 ปี ลักษณะเด่นของน้องบูลด็อกคือมีขนสั้นเรียบ สีขนมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งสีน้ำตาลแดง สีอ่อน ขาว และแดง
น้องบูลด็อกมีนิสัยอ่อนโยน รักใคร่ผูกพัน และจงรักภักดีต่อเจ้าของ ต้องการการออกกำลังกายปานกลาง และเป็นสุนัขที่ฝึกง่าย อย่างไรก็ตาม พวกเขามีความเสี่ยงต่อภาวะทางสุขภาพบางประการ เช่น กลุ่มอาการหายใจลำบากในสุนัขจมูกแบน ข้อสะโพกเสื่อม ข้อศอกเสื่อม และภูมิแพ้ทางผิวหนัง
บทความนี้ แอดแบรี่จะพาเพื่อนๆไปสู่โลกของน้องบูลด็อก นะคะทั้งอาหารการกิน การเลี้ยงดูน้องๆให้แข็งแรง การรักษาน้องยามเจ็บป่วย อย่างครบถ้วนสมบูรณ์เลยค่ะ
ข้อมูลทั่วไปสุนัขบูลด็อก
ประวัติความเป็นมา
บูลด็อกในปัจจุบันแตกต่างจากบรรพบุรุษอย่างสิ้นเชิง ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากสุนัขประเภทมาสทิฟฟ์โบราณและถูกพัฒนาขึ้นในประเทศอังกฤษโดยเฉพาะ
การกล่าวถึงสายพันธุ์นี้ครั้งแรกย้อนไปถึงปี ค.ศ. 1500 โดยได้พรรณนาถึงชายคนหนึ่งที่เลี้ยงสุนัข Bolddogges สองตัว ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการมีอยู่ของสายพันธุ์นี้ตั้งแต่ยุคแรกๆ แล้ว
ในอดีต สุนัขเหล่านี้ดุร้ายและถูกนำไปร่วมแสดงในกีฬาที่โหดร้ายอย่างการล่อวัวกระทิง ซึ่งพวกมันจะฝังเขี้ยวเข้ากับจมูกของวัวและสะบัดหัวอย่างรุนแรง ในปี 1835 เมื่อค่านิยมของสาธารณชนเปลี่ยนแปลงไป การล่อวัวกระทิงจึงถูกห้ามในอังกฤษ และหลายคนเชื่อว่าบูลด็อกสิ้นสมัยไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม นักเพาะพันธุ์ที่ทุ่มเทและอดทนได้ให้ความสำคัญกับนิสัยของสายพันธุ์นี้ โดยเลือกเพาะพันธุ์เฉพาะสุนัขที่มีบุคลิกเรียบร้อยและอ่อนโยนเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไป กระบวนการคัดสรรค์ทางพันธุกรรมได้เปลี่ยนแปลงบูลด็อกจากสุนัขดุร้ายกลายเป็นเพื่อนร่วมทางที่รักใคร่และเป็นมิตรอย่างที่เรารู้จักในปัจจุบัน
ในปี 1864 สโมสรบูลด็อกแห่งแรกก่อตั้งขึ้น แต่ต้องยุบไปหลังจากนั้นเพียง 3 ปี อย่างไรก็ตาม ความมุ่งมั่นของผู้หลงใหลบูลด็อกก็ยังคงอยู่ และในปี 1890 The Bulldog Club of America ก่อตั้งขึ้น พร้อมกับกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับสายพันธุ์นี้
เมื่อบูลด็อกถูกนำมายังสหรัฐอเมริกา ความนิยมของพวกเขาก็เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ จนในที่สุด American Kennel Club ก็ได้ยอมรับสายพันธุ์นี้ในปี 1890 บูลด็อกเป็นที่นิยมในยุค 40 และ 50 โดยอันดับของพวกเขาใกล้เคียงกับท็อป 10 สายพันธุ์ ปัจจุบัน พวกเขาได้ก้าวสู่อันดับที่ 12 ในบรรดา 155 สายพันธุ์ที่ AKC รับรอง เป็นหลักฐานยืนยันความเป็นเพื่อนคู่ใจของพวกเขา
ขนาด
สุนัขบูลด็อกตัวผู้มีน้ำหนักประมาณ 22.6 กิโลกรัม ในขณะที่ตัวเมียมีน้ำหนักราว ๆ 18.1 กิโลกรัม ส่วนความสูงของน้องบูลด็อกวัดที่แนวไหล่จะอยู่ที่ 0.30 – 0.38 เมตร
บุคลิกนิสัย
บูลด็อกมีเสน่ห์เฉพาะตัว ผสมผสานความเป็นมิตรกับความกล้าหาญที่น่าชื่นชม ทำให้พวกเขาเป็นสุนัขเฝ้าบ้านตามธรรมชาติ ด้วยท่าทางสง่างาม พวกเขาแผ่กลิ่นอายความน่ารักไปทั่ว แต่อย่าหลงกลกับธรรมชาติรักสบายของน้องบูลด็อก เพราะเจ้าตัวน้อยนี่มีหัวใจที่แสนดีงาม
บางครั้งน้องอาจแสดงความดื้อรั้นเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปแล้วบูลด็อกค่อนข้างง่าย ๆ และเป็นมิตร อีกทั้งยังมีความจริงใจ และมีนิสัยรักใคร่ผูกพัน ความทรงจำยอดเยี่ยมและมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ดีต่อการฝึกที่สนุกสนาน น้องบูลด็อกไม่ค่อยเห่าเสียงดัง
การทำให้บูลด็อกเป็นสุนัขที่ปรับตัวเข้ากับสังคมได้ดี ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดู การฝึก และการเข้าสังคมตั้งแต่อายุยังน้อย ควรให้พวกเขาได้สัมผัสกับประสบการณ์ ผู้คน และสภาพแวดล้อมที่หลากหลายในช่วงเดือนแรกๆ ของชีวิต การเรียนรู้ทักษะทางสังคมเบื้องต้นในชั้นเรียนสุนัขจะช่วยให้น้องได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนและสุนัขตัวอื่น ๆ ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ การพาน้องเข้าสังคมผ่านการพบปะแขกแปลกหน้าและไปยังสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน ก็จะช่วยพวกเขาพัฒนาทักษะทางสังคมได้ดีขึ้นเช่นกัน
บุคลิกภาพทั่วไปสุนัขบูลด็อก
สุขภาพ
เช่นเดียวกับสุนัขทุกสายพันธุ์ บูลด็อกมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคและความผิดปกติบางอย่าง แม้ว่าบูลด็อกทุกตัวจะไม่ได้เจอกับปัญหาสุขภาพเหล่านี้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้เมื่อติดต่อกับผู้เพาะพันธุ์และตลอดชีวิตของน้องบูลด็อก การเลือกผู้เพาะพันธุ์ที่มีความรับผิดชอบจะเพิ่มโอกาสในการได้บูลด็อกที่แข็งแรง เพราะพวกเขาจะดูแลให้ลูกสุนัขได้รับวัคซีนและถ่ายพยาธิ นักเพาะพันธุ์ที่ดีจะใช้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่สมบูรณ์แข็งแรง และตรวจโรคทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับสายพันธุ์
ใบรับรองสุขภาพจากองค์กรต่าง ๆ เช่น Orthopedic Foundation for Animals และ Canine Eye Registry Foundation ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าเกี่ยวกับสุขภาพของบูลด็อก โดยทั่วไปแนะนำว่าไม่ควรผสมพันธุ์บูลด็อกจนกว่าจะอายุ 2-3 ปี เนื่องจากปัญหาสุขภาพบางอย่างอาจไม่แสดงอาการจนกว่าจะโตเต็มวัย แม้ว่าน้องบูลด็อกจะมีนิสัยดีเพียงใด แต่ก็อาจมีปัญหาสุขภาพได้หลากหลาย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังสุขภาพของพวกเขาอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ตามความจำเป็น โดยภาวะต่อไปนี้อาจส่งผลกระทบต่อบูลด็อก
ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในบูลด็อก ได้แก่
– โรคตาเชอร์รี่ (Cherry Eye): เกิดขึ้นเมื่อแอ่งน้ำตาชั้นที่สามยื่นออกมามีลักษณะบวมแดงคล้ายผลเชอร์รี่ที่หางตา
– ไขสันหลังแตกแต่กำเนิด (Spinal Bifida): เป็นความผิดปกติแต่กำเนิดเมื่อกระดูกสันหลังไม่ปิดสนิทครอบไขสันหลังไว้
– ภาวะตาแห้ง (Dry Eye): เกิดขึ้นเมื่อสุนัขผลิตน้ำตาไม่เพียงพอ ทำให้ดวงตาแห้งและระคายเคือง
– หนังตาม้วนเข้า (Entropion): เกิดขึ้นเมื่อขนตาของสุนัขบิดงอเข้าด้านใน ทำให้ขนตาสัมผัสกับตาและเกิดการระคายเคือง น้ำตาไหลมากผิดปกติ และรู้สึกไม่สบายตา
– การจาม: แม้ไม่ใช่ปัญหาสุขภาพแต่การจามแบบกลับหลังเป็นเรื่องปกติในบูลด็อก
– ภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นในสุนัขจมูกแบน (Brachycephalic Syndrome): สุนัขจมูกสั้นอย่างบูลด็อกมักประสบภาวะนี้ซึ่งเป็นผลจากการอุดตันของทางเดินหายใจ
– อาการสั่นศีรษะ (Head Shakes): อาการสั่นศีรษะในบูลด็อกอาจดูคล้ายอาการชัก แต่มักเกิดเฉพาะที่ศีรษะ เป็นการเคลื่อนไหวแบบไม่ได้ตั้งใจจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง หรือขึ้นลง อาจเชื่อมโยงกับความเครียดหรือระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
– โรคขี้เรื้อนแดง (Demodectic Mange): เกิดจากไรที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติบนผิวหนังและรากขนของสุนัข
– โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip Dysplasia): เป็นความผิดปกติที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม เกิดจากการเชื่อมต่อของกระดูกต้นขากับกระดูกสะโพกไม่เข้ากันดี
– กระดูกสะบ้าเคลื่อน (Patellar Luxation): พบบ่อยในสุนัขพันธุ์เล็ก รวมถึงบูลด็อก เมื่อกระดูกสะบ้า (patella) ไม่อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องใน groove ของกระดูกต้นขา
นักเพาะพันธุ์บูลด็อกที่มีความรับผิดชอบจะเพิ่มโอกาสในการได้ลูกสุนัขที่แข็งแรง ดูแลให้ลูกสุนัขได้รับวัคซีนและถ่ายพยาธิก่อนส่งมอบให้เจ้าของใหม่ โดยจะเลือกใช้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ และตรวจโรคทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับสายพันธุ์ การผสมพันธุ์บูลด็อกควรรอจนอายุ 2-3 ปี เนื่องจากปัญหาสุขภาพบางอย่างอาจไม่แสดงอาการจนกว่าจะโตเต็มวัย
การดูแล
บูลด็อกเป็นสุนัขที่มีพลังงานต่ำถึงปานกลาง เหมาะสำหรับการเลี้ยงในบ้าน แม้ไม่ต้องการการออกกำลังกายมาก แต่การเดินเล่นเป็นประจำทุกวันมีความสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาน้ำหนักเกิน การเดินระยะทาง 1-2 กิโลเมตรในช่วงเวลาที่อากาศไม่ร้อนไม่หนาวจัดเพียงพอแล้ว แม้แต่การเดินสั้น ๆ ไปตามถนนก็สร้างความสุขให้กับน้องบูลด็อกได้
เนื่องด้วยลักษณะหน้าสั้น บูลด็อกไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศร้อนหรือหนาวจัดได้ พวกเขามักหายใจหอบและระบายความร้อนได้ยาก ทำให้เสี่ยงเป็นโรคลมแดด โดยเฉพาะเมื่ออุณหภูมิสูงกว่า 29 องศาเซลเซียส และยังว่ายน้ำไม่เป็น เพราะส่วนหัวหนักกว่าลำตัว ดังนั้น ถ้าบ้านคุณมีสระว่ายน้ำ อ่างน้ำวน หรือบ่อน้ำ ต้องป้องกันไม่ให้เจ้าตัวน้อยหล่นลงไปติดน้ำ เพื่อความปลอดภัย
ด้านการฝึก แม้บูลด็อกอาจไม่ใช่ตัวท็อปในการแข่งขันทดสอบความสามารถสุนัข แต่พวกเขาก็เป็นนักเรียนรู้ฉลาด มีความจำยอดเยี่ยม และตอบสนองดีต่อการฝึกที่สนุกสนาน ด้วยการทำซ้ำ การเสริมแรงทางบวก รางวัลอาหาร และคำชม หากอดทนและสม่ำเสมอ บูลด็อกของคุณจะก้าวหน้าในการฝึกได้อย่างแน่นอน
การให้อาหาร
ปริมาณอาหารที่แนะนำสำหรับบูลด็อกอยู่ที่ 0.5-2 ถ้วยต่อวัน แบ่งเป็นสองมื้อ ระวังอย่าให้น้องกินมากเกินไปเพราะอ้วนจะกดดันต่อข้อเข่า และนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมา ดังนั้นควรตวงอาหารให้น้องและให้กินวันละ 2 มื้อ แทนการปล่อยให้กินได้ตลอดทั้งวัน และคอยประเมินน้ำหนักของน้องเป็นระยะ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาอยู่ในรูปร่างที่ดี ดูได้จากการสัมผัสซี่โครงโดยไม่ต้องออกแรงกดมาก
การดูแลขนและผิวหนัง
ขนของบูลด็อกเป็นขนสั้น ตรง และเรียบเป็นมัน มีให้เลือกหลากหลายสี ทั้งน้ำตาลแดงลายเสือ ลายเสืออื่น ๆ ขาวล้วน แดงล้วน สีอ่อน สีครีมซีด สีเหลืองอ่อน สีเหลืองแดง และสีหลายสีเป็นวง ๆ
การดูแลขนของน้องบูลด็อกทำได้ง่าย ๆ ด้วยการแปรงขนสัปดาห์ละครั้งด้วยแปรงขนแข็ง แต่ต้องทำความสะอาดใบหน้าของน้องทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่เป็นรอยย่น เมื่อล้างแล้วต้องเช็ดให้แห้งสนิท หรือใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดเด็กอ่อน (baby wipes) ที่มีส่วนผสมของลาโนลินและว่านหางจระเข้ซึ่งอ่อนโยนต่อผิวหนัง หากบูลด็อกของคุณเป็นผื่นคันตามรอยพับผิวหนัง ให้ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอยาทา
บูลด็อกขนร่วงปานกลาง การแปรงขนให้เป็นประจำจะช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นขนตามเสื้อผ้าและเฟอร์นิเจอร์ได้
ควรตัดเล็บให้น้องบูลด็อกเดือนละ 1-2 ครั้ง และเริ่มทำให้เคยชินกับการตัดเล็บตั้งแต่ยังเด็ก ส่วนฟันก็ควรแปรงอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งเพื่อป้องกันคราบหินปูนและแบคทีเรีย
การตรวจร่างกายอย่างละเอียดทุกสัปดาห์ระหว่างการดูแลขนจะช่วยให้คุณสังเกตเห็นปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะลุกลาม เป็นการรักษาสุขภาพและช่วยให้น้องได้พบสัตวแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ
ความเหมาะสมกับเด็กและสัตว์เลี้ยงอื่น
ด้วยนิสัยเป็นมิตรและร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง บูลด็อกเป็นเพื่อนที่ดีเลิศสำหรับเด็ก ๆ รวมถึงเด็กเล็กด้วย อย่างไรก็ตาม การสอนมารยาทในการเข้าหาและสัมผัสสุนัขให้เด็ก ๆ เป็นสิ่งสำคัญ ควรสอนให้เด็กเบามือ มีความเคารพ และคำนึงถึงน้องหมา อย่าลืมบอกเด็ก ๆ ด้วยว่าไม่ควรรบกวนน้องขณะหลับหรือกินอาหาร เพราะสถานการณ์เหล่านี้อาจทำให้แม้แต่สุนัขที่เป็นมิตรที่สุดแสดงปฏิกิริยาที่ไม่คาดฝันได้
ไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่กับสุนัขตามลำพังโดยไม่มีผู้ใหญ่ดูแล แม้บูลด็อกจะมีนิสัยอ่อนโยน แต่สุนัขทุกสายพันธุ์อาจมีปฏิกิริยาที่คาดไม่ถึงในบางสถานการณ์ก็ได้
นอกจากจะรักเด็กแล้ว บูลด็อกยังมีจิตใจสงบสุขุม ทำให้เข้ากับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นได้ดี ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมว อาจมีข้อยกเว้นเล็กน้อยที่ไม่คุ้นเคยกับสุนัขแปลกหน้า แต่การแนะนำตัวอย่างเหมาะสมและค่อยเป็นค่อยไปจะช่วยให้บูลด็อกรู้สึกสบายใจกับเพื่อนใหม่มากขึ้น
สรุป
บูลด็อกเป็นสุนัขที่เป็นเพื่อนที่แสนดีของมนุษย์ มีนิสัยอ่อนโยน รักสงบ หัวเราะง่าย และรักเด็ก พวกเขาขี้เล่น แต่ไม่ต้องการกิจกรรมหนักหรือการออกกำลังกายมากจนเกินไป เจ้าตัวน้อยนี้ต้องการการเอาใจใส่และใกล้ชิดกับเจ้าของ การได้รับความรักและการดูแลที่ดีในทุกด้านจะทำให้พวกเขามีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุข
อย่างไรก็ตาม การจะได้บูลด็อกที่แข็งแรงและมีสุขภาพดีนั้น ควรเลือกผู้เพาะพันธุ์ที่มีความรับผิดชอบ รวมถึงมีความพร้อมที่จะดูแลบูลด็อกให้ดีที่สุดทั้งในด้านอาหาร การออกกำลังกาย การฝึก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสุขภาพ ด้วยความเข้าใจในลักษณะเฉพาะและแนวโน้มปัญหาสุขภาพ จะทำให้เราพร้อมที่จะเตรียมการและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น เพื่อให้น้องบูลด็อกของเราอยู่เคียงข้างไปนานแสนนาน
น้องหมาอยากบอก
เจ้านายที่รักจ๋า อย่าลืมซื้ออาหารอร่อยๆ ให้หนูนะ น้องหิวแล้ว แล้วอย่าลืมของเล่นสนุกๆที่น้องชอบด้วยล่ะ และขอขนมแสนอร่อยที่หนูชื่นชอบด้วยนะโฮ่ง มันช่วยให้มีความสุขและพลังงานเต็มเปี่ยม อ้อ…อย่าลืมถุงเก็บอึสะอาดๆ ด้วยล่ะ ช่วยให้น้องขับถ่ายถูกที่ เจ้าของก็สบายใจ หนูรอของดีๆ จากเจ้านายอยู่นะ ปล.ถ้าไม่มีของพวกนี้ให้ หนูจะงอนเอานะ แต่เอ…จำไม่ได้ว่าบ้านเราใช้ยี่ห้อไหน เจ้านายที่รักลองกดเช็คของเลยนะครับ โบ๊ะ โบ๊ะ
Reference: แหล่งที่มา
Kawaiibear.com เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงแสนรัก ใจกลางภารกิจของเราคือความมุ่งมั่นในการให้ข้อมูล และคำแนะนำที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ทีมงานของเราประกอบด้วยกลุ่มคนที่รักสัตว์ที่พร้อมให้ข้อมูลและคำแนะนำที่มีคุณภาพ ภารกิจของเราเริ่มต้นจากวิสัยทัศน์ในการสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้รักสัตว์สามารถพึ่งพาได้ ในการค้นหาข้อมูลและผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับเพื่อนรักสี่ขา เราเข้าใจถึงความแตกต่างในความต้องการของสัตว์เลี้ยงแต่ละชนิด เราจึงทุ่มเทในการให้นำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ เราเจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์และข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง เพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุม ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่เว็บไซต์ แต่เป็นชุมชนของผู้ที่รักสัตว์ และต้องการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสัตว์เลี้ยงแสนรัก และเต็มไปด้วยความสุขสำหรับทุกคน