สุนัขชาเป่ย Chinese Shar Pei
สุนัขชาเป่ย (Chinese Shar-Pei) สุนัขสายพันธุ์ที่เป็นเอกลักษณ์จากแดนมังกร ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเพิ่งได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจาก American Kennel Club เป็นสายพันธุ์ลำดับที่ 134 เมื่อไม่นานมานี้ แต่จริงๆ แล้วน้องหมาพันธุ์นี้มีประวัติความเป็นมายาวนานหลายร้อยปี
เดิมทีสุนัขชาเป่ยถูกเพาะพันธุ์ขึ้นมาเพื่อใช้งานหลากหลาย ทั้งการเฝ้ายาม ล่าสัตว์ และต้อนฝูงปศุสัตว์ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ต่อมาภายหลัง พวกเขาถูกนำมาใช้ในการต่อสู้ ปัจจุบันนี้สุนัขชาเป่ยโด่งดังในเรื่องขนสั้นแข็ง ผิวหนังที่เป็นรอยย่นและหย่อนคล้อย รวมไปถึงความจงรักภักดีต่อเจ้าของ
ในยุคปัจจุบัน สุนัขชาเป่ยส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอย่างสบายในฐานะเพื่อนคู่ใจของมนุษย์ พวกเขาสามารถปรับตัวเข้ากับการใช้ชีวิตในอพาร์ตเมนต์ได้ดี อย่างไรก็ตาม เพื่อนบ้านของคุณอาจไม่ค่อยชอบใจนิสัยชอบเห่าของน้อง สำหรับคนที่ไม่เคยเลี้ยงสัตว์มาก่อนต้องระวังให้ดี เนื่องจากสุนัขสายพันธุ์นี้ต้องการการฝึกที่เข้มงวดและสม่ำเสมอ ซึ่งอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะพวกเขามีนิสัยดื้อแต่กำเนิด หากคุณเป็นคนที่เพิ่งจะหัดเลี้ยงสุนัขและกำลังคิดจะรับลูกสุนัขชาเป่ยมาเลี้ยง ขอให้โปรดคำนึงถึงข้อนี้ด้วย
บทความนี้ แอดแบรี่จะพาเพื่อนๆไปสู่โลกของน้องชาเป่ย นะคะทั้งอาหารการกิน การเลี้ยงดูน้องๆให้แข็งแรง การรักษาน้องยามเจ็บป่วย อย่างครบถ้วนสมบูรณ์เลยค่ะ
ข้อมูลทั่วไปสุนัขชาเป่ย
ภาพรวมของสุนัขชาเป่ย
ชื่อของเขาแปลว่า “ผิวอย่างทราย” หมายถึงเส้นขนที่เป็นเอกลักษณ์คล้ายแปรงขัดหม้อ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งเดียวที่พิเศษในตัวสุนัขชาเป่ย เขาเป็นก้อนเนื้อที่มีรอยย่นหย่อนยานไปทั้งตัว รอยพับบนผิวหนังทำให้เขาดูเหมือนกำลังสวมชุดที่ใหญ่โตเกินตัว ใบหูเล็กๆ ตั้งอยู่บนหัวใหญ่และแข็งแรง ที่มีจมูกสั้นและลิ้นสีม่วง ทั้งหมดนี้ลงท้ายด้วยหางหนาป้อมที่ม้วนขึ้นมาบนหลัง สุนัขชาเป่ยดูเป็นสุนัขที่มีหน้าตาแปลกตาอย่างแน่นอน และรูปลักษณ์ของเขาเพียงอย่างเดียวก็มากพอที่จะดึงดูดให้ผู้คนอยากจะเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้แล้ว แต่ยังมีอะไรอีกหลายอย่างมากกว่าแค่รูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ในสุนัขชาเป่ย
อ่านต่อสายพันธุ์นี้เป็นสุนัขที่ใจเย็นพอที่จะอาศัยในอพาร์ตเมนต์ได้ นอกจากนี้ เขายังเป็นสุนัขที่ชอบคิดเองทำเองและค่อนข้างเก็บตัว มรดกตกทอดมาในฐานะสุนัขเฝ้ายามและสุนัขสู้ทำให้เขาเป็นสุนัขเฝ้าบ้านและสุนัขคุ้มกันที่ยอดเยี่ยม ยิ่งไปกว่านั้นคือต้องสอนไม่ให้เขาตอบสนองต่อคนหรือสัตว์ที่เขาไม่รู้จักมากจนเกินไป
การฝึกขั้นพื้นฐานเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสุนัขชาเป่ยที่ดื้อรั้น เขาต้องการเจ้าของที่สามารถสถาปนาความเป็นผู้นำได้อย่างแน่วแน่และอ่อนโยน ซึ่งสุนัขมักจะไม่นับถือเจ้าของที่ทำไม่ได้ เขาเรียนรู้ได้เร็ว ดังนั้นการฝึกจึงมักจะเป็นเรื่องง่ายตราบใดที่เขาไม่แสดงความดื้อดึง การดูแลขนนั้นง่ายกว่าสำหรับสุนัขชาเป่ย เขาเป็นสุนัขที่สะอาดตามธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำบ่อยหรืออาบน้ำทุกวัน อย่างไรก็ตาม ด้วยรอยย่นจำนวนมากแบบนั้นทำให้เขามีแนวโน้มที่จะมีปัญหาผิวหนัง การดูแลและใส่ใจเป็นพิเศษอาจจำเป็นในจุดนี้
สุนัขชาเป่ยไม่ได้เป็นที่นิยมเหมือนแต่ก่อนแล้ว ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นผลดีต่อสายพันธุ์นี้ การเพิ่มความนิยมนำไปสู่การเพาะพันธุ์ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากผู้เพาะพันธุ์ที่ไม่มีจรรยาบรรณ ซึ่งไม่คำนึงถึงสุขภาพ อุปนิสัย และมาตรฐานสายพันธุ์ น่าเสียดายที่นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับสุนัขชาเป่ยในยุค 1980 ปัจจุบันผู้เพาะพันธุ์ที่มีความรับผิดชอบกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อฟื้นฟูอุปนิสัยที่จงรักภักดีและเป็นมิตรของสายพันธุ์นี้ รวมทั้งเพื่อลดหรือกำจัดปัญหาสุขภาพให้หมดไป
ประวัติความเป็นมาของสุนัขชาเป่ย
สุนัขชาเป่ยมีถิ่นกำเนิดในบริเวณภาคใต้ของประเทศจีน เป็นที่นิยมใช้ในการล่าสัตว์ เฝ้าฝูงปศุสัตว์ คุ้มครองเจ้าของ และเอาไว้ใช้ต่อสู้ นักประวัติศาสตร์บางท่านเชื่อว่าสุนัขชาเป่ยเป็นสายพันธุ์โบราณ แต่ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนมาพิสูจน์ มีรูปปั้นที่มีลักษณะคล้ายกับสุนัขชาเป่ยมากถูกระบุว่ามีอายุย้อนไปถึงสมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 200 ก่อนคริสตกาล) แต่รูปปั้นเหล่านี้ก็มีความคล้ายคลึงกับสุนัขพันธุ์เฉาเฉากับปั๊กด้วยเช่นกัน
อ่านต่อหลังจากที่สาธารณรัฐประชาชนจีนถูกก่อตั้งขึ้น จำนวนประชากรสุนัขในประเทศแทบจะสูญพันธุ์ไปเลย แต่ยังมีสุนัขชาเป่ยจำนวนหนึ่งถูกเพาะพันธุ์ในฮ่องกงและไต้หวัน ถ้าไม่ได้ความพยายามของชายคนหนึ่งชื่อ Matgo Law แห่ง Down-Homes Kennels ในฮ่องกง สุนัขชาเป่ยอาจจะสูญพันธุ์ไปแล้ว
เนื่องจากเขา สุนัขชาเป่ยจำนวนเล็กน้อยถูกนำเข้ามาในสหรัฐอเมริกาในปี 1973 และผู้ที่หลงใหลในสายพันธุ์นี้ได้ร่วมกันก่อตั้ง Chinese Shar-Pei Club of America, Inc. ขึ้นในปี 1974 การจัดแสดงสุนัขชาเป่ยแบบเฉพาะทางครั้งแรกถูกจัดขึ้นในปี 1978 สุนัขชาเป่ยได้รับการยอมรับเข้าในหมวด Miscellaneous Class ของ American Kennel Club ในปี 1988 และได้รับการยอมรับจาก AKC อย่างเป็นทางการในปี 1991 ในฐานะหนึ่งในสมาชิกของ Non-Sporting Group
ลักษณะของสุนัขชาเป่ย
สุนัขชาเป่ยเพศผู้และเพศเมียโดยทั่วไปมีความสูงตั้งแต่ 45.72 ถึง 50.80 เซนติเมตร และมีน้ำหนักระหว่าง 18.10 ถึง 24.95 กิโลกรัม
เอกลักษณ์เด่นชัดของน้องสุนัขชาเป่ยคือผิวหนังที่เป็นรอยย่นรอบตัว โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในวัยลูกสุนัข ถือเป็นหนึ่งในลักษณะที่โดดเด่นที่สุดของพวกเขา
อ่านต่อน้องมีใบหน้าที่เป็นรอยย่นเป็นอย่างมาก มักถูกเปรียบเทียบกับ “ฮิปโปโปเตมัส” เนื่องจากมีรอยลึกฝังแน่นและส่วนจมูกเป็นเนื้อ
สุนัขชาเป่ยเป็นหนึ่งในไม่กี่สายพันธุ์ที่มีลิ้นเป็นสีน้ำเงินเข้มแบบทึบตลอดทั้งลิ้นเหมือนกับสุนัขเฉาเฉา
ขนของน้องอาจเป็นแบบ “ขนม้า” (สั้นและแข็ง) หรือแบบ “ขนแปรง” (ยาวและเรียบกว่าเล็กน้อย) ขนแบบคู่นี้ไม่เหมือนกับสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ
น้องเป็นที่รู้จักในเรื่องความจงรักภักดีและสัญชาตญาณในการปกป้อง ทำให้เป็นสุนัขเฝ้าบ้านและเพื่อนที่ซื่อสัตย์อย่างยอดเยี่ยม
น้องมีนิสัยอิสระและอาจดูเหินห่างกับคนแปลกหน้าในช่วงแรก การฝึกขั้นพื้นฐานเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่าเขาจะมีพฤติกรรมที่ดีกับผู้คนแปลกหน้าและสัตว์อื่นๆ
สุนัขชาเป่ยเป็นสุนัขที่ไม่ต้องการกิจกรรมมากนักและพอใจกับการออกกำลังกายปานกลาง ทำให้เหมาะกับการพักอาศัยในอพาร์ตเมนต์หรือบ้านที่มีสนามขนาดเล็ก
สายพันธุ์นี้มีประวัติที่ยาวนานในประเทศจีน ที่ซึ่งพวกเขาถูกเพาะพันธุ์มาเพื่องานหลากหลาย รวมทั้งการล่า และการเฝ้ายาม ลักษณะรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์มีวัตถุประสงค์เพื่อการใช้งาน เพราะผิวหนังที่หลวมช่วยให้พวกเขาสามารถบิดตัวหลุดออกมาได้ถ้าถูกจับโดยสัตว์ร้ายระหว่างการล่า
สุนัขชาเป่ยมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่นปัญหาผิวหนังเนื่องจากมีรอยย่นและมีแนวโน้มที่จะเกิด hip dysplasia และปัญหาระบบทางเดินหายใจ การเพาะพันธุ์ที่รับผิดชอบและการดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อสุขภาวะของพวกเขา
ถึงแม้จะมีสัญชาตญาณในการปกป้อง แต่น้องสุนัขชาเป่ยก็สามารถเป็นสัตว์เลี้ยงในครอบครัวที่น่ารักและจงรักภักดีได้เมื่อได้รับการเลี้ยงดูและฝึกฝนอย่างเหมาะสม พวกเขาสามารถสร้างความผูกพันที่แน่นแฟ้นกับครอบครัวของตนได้
นิสัยของสุนัขชาเป่ย
สุนัขชาเป่ยมีความตื่นตัวและมีความเป็นอิสระ น้องทุ่มเทให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก แต่จะรักษาระยะห่างกับคนที่ตัวเองไม่รู้จัก เป็นที่กล่าวกันว่าเขาชอบอยู่กับคนมากกว่าอยู่กับสุนัขตัวอื่น และชอบที่จะอยู่กับเจ้าของตลอดเวลา เป็นสุนัขที่มีท่าทีนิ่งสงบและมั่นใจ เขามักจะสามารถเข้าใจเจ้าของหรือครอบครัวได้โดยสัญชาตญาณ นอกจากจะทุ่มเทแล้ว สุนัขชาเป่ยก็ยังเป็นอิสระและมีความมุ่งมั่นสูง น้องจะปกป้องครอบครัวของตัวเอง ทำให้เป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ยอดเยี่ยม และจะตอบสนองต่อภัยคุกคาม
อ่านต่อเนื่องจากเคยถูกใช้เป็นสุนัขต่อสู้ เขาอาจจะก้าวร้าวกับสุนัขตัวอื่น เหมือนกับสุนัขทุกตัว สุนัขชาเป่ยจำเป็นต้องมีการฝึกฝนตั้งแต่เนิ่งๆ การได้รับการฝึกฝนช่วยให้แน่ใจว่าลูกสุนัขชาเป่ยของคุณจะเติบโตขึ้นมาเป็นสุนัขที่สมบูรณ์แบบ การลงทะเบียนเข้าเรียนในชั้นเรียนสำหรับลูกสุนัขถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี การเชิญผู้เยี่ยมเยียนบ่อยๆ และพาเขาไปยังสวนสาธารณะที่มีผู้คนพลุกพล่าน ร้านค้าที่อนุญาตให้สุนัขเข้าได้ และพาไปเดินเล่นอย่างสบายๆเพื่อพบปะกับเพื่อนบ้าน สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เขาฝึกทักษะด้านสังคมได้ดียิ่งขึ้น
บุคลิกภาพทั่วไปสุนัขชาเป่ย
โรคที่พบบ่อยของสุนัขชาเป่ย
สุขภาพของสุนัขชาเป่ย
สุนัขชาเป่ยมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับปัญหาสุขภาพบางอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาผิวหนัง ไม่ใช่ว่าสุนัขชาเป่ยทุกตัวจะเป็นโรคเหล่านี้ แต่เป็นสิ่งสำคัญที่ควรตระหนักถึงหากคุณกำลังพิจารณาที่จะเลี้ยงสุนัขในสายพันธุ์นี้
อ่านต่อไข้ชาเป่ย (Shar-Pei Fever) หรือที่รู้จักกันในชื่อ swollen hock syndrome อาการนี้แสดงออกมาในรูปแบบของการบวมของข้อเท้า (บางครั้งทั้งสองข้าง) และส่งผลให้ไม่ยอมขยับตัว มีอาการปวดท้อง อาเจียน ท้องเสีย และหายใจตื้น สุนัขจะมีไข้โดยไม่ทราบสาเหตุถึง 40 ถึง 41.7 องศาเซลเซียส หนึ่งครั้งหรือมากกว่า อาการนี้มักจะเริ่มขึ้นเมื่ออายุ 18 เดือน แต่อาจจะเกิดขึ้นได้ตอนที่โตเป็นสุนัขเต็มวัยแล้วก็ได้ ไข้จะกินเวลาประมาณ 24 ถึง 36 ชั่วโมง การรักษารวมไปถึงการลดไข้และบรรเทาอาการปวด
ต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ (Hypothyroidism) นี่เป็นความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ มีความเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับภาวะต่างๆ เช่น โรคลมบ้าหมู ภาวะผมร่วง โรคอ้วน อาการซึม ผิวหนังมีสีเข้มขึ้น โรคผิวหนังอักเสบติดเชื้อ และภาวะผิวหนังอื่นๆ การรักษาใช้วิธีการให้ยาและควบคุมอาหาร
โรคมะเร็ง อาการรวมถึงการบวมผิดปกติของแผลหรือก้อน แผลที่ไม่ยอมหายหรือมีเลือดออกจากช่องเปิดใดๆ ของร่างกาย อาการหายใจหรือขับถ่ายลำบาก วิธีการรักษามะเร็งได้แก่ เคมีบำบัด การผ่าตัด และการใช้ยา
Elbow Dysplasia คล้ายกับ hip dysplasia เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมเช่นกัน เชื่อว่าเกิดจากการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ผิดปกติ ซึ่งส่งผลให้มีข้ออ่อนแอและผิดรูป ความรุนแรงของโรคอาจแตกต่างกันไป สุนัขอาจพัฒนาอาการเป็นเพียงข้ออักเสบหรืออาจกลายเป็นง่อยได้ วิธีการรักษาประกอบด้วยการผ่าตัด การควบคุมน้ำหนัก การจัดการทางการแพทย์ และการใช้ยาต้านการอักเสบ
โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง (Demodectic Mange) หรือที่รู้จักกันในชื่อ demodicosis เกิดจากตัวเรือดที่ชื่อ demodex ซึ่งสุนัขแม่จะถ่ายทอดให้ลูกในช่วงไม่กี่วันแรกหลังคลอด (ไรชนิดนี้ไม่สามารถแพร่ไปยังมนุษย์หรือสุนัขอื่นๆ ได้ มีการถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกเท่านั้น) ไรเรือดอาศัยอยู่ในรูขุมขนและโดยปกติจะไม่ก่อให้เกิดปัญหา แต่ถ้าสุนัขชาเป่ยของคุณมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือบกพร่อง เขาอาจเป็นโรคผิวหนังอักเสบแบบ demodectic ในแบบเฉพาะที่ จะมีอาการเป็นจุดแดง ลอก มีผมร่วง ตามหัว คอ และขาหน้า มักจะหายได้เอง แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็ควรพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อป้องกันไม่ให้กลายเป็นโรคผิวหนังทั่วร่างกาย ซึ่งจะแพร่กระจายไปทั่วตัวและทำให้เกิดการติดเชื้อ
โรคผิวหนังอักเสบที่มีสะเก็ด (Seborrhea) เป็นภาวะที่มีลักษณะเป็นผิวแห้งลอกและมีกลิ่นเหม็นแรง มักเป็นภาวะทุติยภูมิที่เกิดจากภูมิแพ้ การติดเชื้อ หรือโรคอื่นๆ การรักษาประกอบด้วยการอาบน้ำด้วยแชมพูที่ผสมยาและรักษาโรคที่เป็นต้นเหตุ
ผิวหนังอักเสบติดเชื้อ (Pyoderma) เป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวหนัง เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง และพบได้ค่อนข้างบ่อยในสุนัขชาเป่ย อาจเป็นได้ทั้งการติดเชื้อปฐมภูมิหรือทุติยภูมิ โดยอาการหลังเป็นผลมาจากภาวะโรคที่เป็นสาเหตุ เช่น ภูมิแพ้หรือต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ รักษาด้วยยาปฏิชีวนะ
ลูกสะบ้าเคลื่อน (Patellar Luxation) หรือที่รู้จักในชื่อ slipped stifles เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในสุนัขพันธุ์เล็ก ลูกสะบ้าคือกระดูกสะบ้า ภาวะ luxation หมายถึงการเคลื่อนที่ผิดปกติของส่วนกายวิภาคใดส่วนหนึ่ง (อย่างเช่น กระดูกเคลื่อนหลุดข้อ) ลูกสะบ้าเคลื่อนจึงเป็นอาการที่ข้อเข่า (มักจะเป็นขาหลัง) เคลื่อนเข้าและออกจากตำแหน่ง ทำให้เกิดอาการปวด ภาวะนี้อาจทำให้พิการได้ แต่สุนัขหลายตัวก็ใช้ชีวิตได้ค่อนข้างปกติ
ข้อสะโพกเจริญผิดปกติ (Hip Dysplasia) นี่เป็นภาวะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม เกิดจากกระดูกต้นขาไม่เข้าพอดีกับข้อสะโพก สุนัขบางตัวมีอาการปวดและเดินเซในขาหลังข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง แต่บางตัวก็ไม่แสดงอาการปวดออกมาภายนอก (การตรวจด้วยเครื่อง X-ray คือวิธีที่แน่นอนที่สุดในการวินิจฉัยปัญหานี้) ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม โรคข้อเสื่อมก็อาจพัฒนาไปตามอายุที่มากขึ้น สุนัขที่มีโรคข้อสะโพกเจริญผิดปกติไม่ควรถูกนำมาทำการผสมพันธุ์ ดังนั้นเมื่อคุณจะซื้อลูกสุนัข ขอหลักฐานจากผู้เพาะพันธุ์ว่าพ่อแม่ของมันไม่มีปัญหาเรื่องข้อสะโพก
โรคกระเพาะอาหารบิดเป็นเกลียว (Gastric Torsion) หรือที่เรียกว่า bloat มีโอกาสคุกคามถึงชีวิตสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่มีหน้าอกลึก ปัจจัยเสี่ยงได้แก่ การให้อาหารครั้งละมาก การกินเร็ว ดื่มน้ำปริมาณมากหลังกินอาหาร และการออกกำลังกายอย่างหักโหมหลังกินเสร็จ อาการ bloat มักเกิดกับสุนัขสูงอายุ เกิดขึ้นเมื่อกระเพาะอาหารขยายตัวด้วยก๊าซหรือลมแล้วบิดเป็นเกลียว (torsion) สุนัขจะไม่สามารถเรอหรืออาเจียนเพื่อขับก๊าซส่วนเกินออกจากกระเพาะอาหาร และการไหลกลับของเลือดไปหัวใจก็ถูกขัดขวาง ความดันเลือดลดลงและสุนัขช็อก ถ้าไม่ได้รับการรักษาทางการแพทย์ทันที สุนัขอาจตายได้ อาการที่น่าสงสัยว่าเป็นโรคนี้ได้แก่ กระเพาะบวมโต น้ำลายไหลมากผิดปกติ และมีอาการอยากอาเจียน โดยอาเจียนไม่ออก นอกจากนี้ยังอาจมีอาการกระสับกระส่าย ซึม เซื่องซึม และอ่อนแรง พร้อมอัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุดเมื่อพบอาการเหล่านี้
โรคเนื้อกระดูกอ่อนอักเสบจากการเจริญผิดปกติ (Osteochondrosis Dissecans หรือ OCD) โรคกระดูกและข้อนี้เกิดจากการเจริญเติบโตของกระดูกอ่อนที่ไม่เหมาะสมในข้อต่อ มักจะเกิดที่ข้อศอก แต่บางครั้งพบที่หัวไหล่ด้วย โรคนี้ทำให้ข้อต่อเกิดอาการแข็งและเจ็บปวด จนสุนัขอาจไม่สามารถงอข้อศอกได้เลย สามารถตรวจพบได้ตั้งแต่สุนัขอายุ 4 ถึง 9 เดือน การให้อาหารสูตร “โปรตีนสูง” หรืออาหารสำหรับ “ช่วงโตเร็ว” มากเกินไป อาจมีผลทำให้เกิดโรคนี้ได้
Cutaneous Mucinosis มิวซินคือสารในผิวหนังที่ทำให้เป็นรอยย่น สารนี้จะใสและเหนียว ทำหน้าที่เหมือนกาวเมื่อสุนัขได้รับบาดเจ็บ แต่พบว่าสุนัขชาเป่ยบางตัวมีมิวซินมากเกินไป ทำให้มันไปรวมตัวกันเป็นฟองอากาศใสบนผิวหนัง แล้วแตกและซึมเปียกได้ อาการนี้อาจเกี่ยวข้องกับภูมิแพ้และรักษาด้วย steroid therapy
ต้อหิน (Glaucoma) ต้อหินคือภาวะที่ความดันในลูกตาสูงขึ้น พบได้ใน 2 รูปแบบคือ ปฐมภูมิ ซึ่งเป็นแบบถ่ายทอดทางพันธุกรรม และทุติยภูมิ ซึ่งเกิดจากปริมาณน้ำในลูกตาลดลงอันเป็นผลจากโรคตาชนิดอื่นๆ อาการได้แก่ตามัวและปวดตา การรักษาและการพยากรณ์โรคจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของต้อหิน โดยอาจรักษาด้วยการผ่าตัดหรือหยอดยา
เปลือกตาม้วนเข้าใน (Entropion) เป็นอาการที่เปลือกตาม้วนเข้ามาด้านใน มักจะเป็นที่เปลือกตาล่าง และเกิดกับทั้งสองตา ทำให้เกิดการสูญเสียการมองเห็นและระคายเคืองตา โดยมากมักเกิดก่อนที่สุนัขจะอายุครบ 1 ปี การผ่าตัดแก้ไขเมื่อสุนัขโตเต็มวัยถือเป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลดี
การดูแลสุนัขชาเป่ย
สุนัขชาเป่ยอาศัยอยู่ได้อย่างสุขสบายทั้งในเมืองหรือชนบท พวกเขาเข้ากับที่อยู่อาศัยจำกัดอย่างเช่นอพาร์ตเมนต์หรือคอนโดได้ดี หากได้ออกไปเดินเล่นทุกวัน การมีสนามหลังบ้านไม่จำเป็น แต่พวกเขาจะชอบที่ได้ออกไปเคลื่นไหวขาและยืดเส้นยืดสาย โดยทั่วไปแล้ว สุนัขชาเป่ยจะค่อนข้างมีความสุขเพียงแค่อยู่กับเจ้าของไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เริ่มการฝึกและทำให้สุนัขชาเป่ยของคุณเข้าสังคมตั้งแต่วันแรกที่คุณนำเขามาอยู่ด้วย และลงมือทำต่อเนื่องไปตลอดชีวิตของเขา เขาจะต้องการการเสริมแรงอย่างต่อเนื่องเนื่องจากโดยธรรมชาติแล้วเขาจะไม่เป็นมิตรกับสุนัขตัวอื่นๆ น้องอาจมีนิสัยดื้อรั้นและเจ้าของต้องสม่ำเสมอและหนักแน่นเพื่อสถาปนาความเป็นผู้นำ อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วเขามักจะตั้งใจเรียนรู้และตอบสนองต่อการฝึกฝนได้ดี
อ่านต่อกิจกรรมการทำให้เข้าสังคมที่ดีที่สุดคือการพาสุนัขชาเป่ยของคุณไปด้วยทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นชั้นเรียนสำหรับลูกสุนัข งานกิจกรรมกลางแจ้ง สวนสาธารณะที่มีผู้คนพลุกพล่าน บ้านเพื่อน และให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นี่จะช่วยป้องกันไม่ให้เขาขี้อายหรือหวงแหนจนเกินไป เนื่องจากสายพันธุ์นี้อาจก้าวร้าวต่อสุนัขตัวอื่นได้ ควรจูงสุนัขชาเป่ยด้วยสายจูงเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ สุนัขชาเป่ยถูกจัดเป็นสุนัขจมูกสั้นหรือพันธุ์ brachycephalic เหมือนกับบูลด็อก บ็อกเซอร์ และปั๊ก จมูกสั้นทำให้พวกเขาไวต่ออากาศร้อนมาก นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่เหมาะสำหรับการวิ่งออกกำลังกายเป็นเพื่อน เพื่อป้องกันอาการช็อคจากความร้อน สุนัขเหล่านี้ควรอยู่ในบ้านที่มีพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศเมื่อสภาพอากาศร้อน
การให้อาหารสุนัขชาเป่ย
ปริมาณอาหารที่แนะนำต่อวัน: อาหารเม็ดสำเร็จรูปคุณภาพดี 1.5 ถึง 2.5 ถ้วยต่อวัน แบ่งให้กินเป็น 2 มื้อ
หมายเหตุ: ปริมาณอาหารที่สุนัขโตกินขึ้นอยู่กับขนาดตัว อายุ โครงสร้าง อัตราการเผาผลาญ และระดับกิจกรรมของแต่ละตัว สุนัขเป็นสิ่งมีชีวิตเฉพาะตัว เหมือนกับคน พวกเขาไม่ได้ต้องการอาหารในปริมาณเท่ากันทุกตัว แน่นอนว่าสุนัขที่ต้องออกกำลังกายมากจะต้องกินมากกว่าสุนัขที่เอาแต่นอนอยู่บ้าน คุณภาพของอาหารสุนัขที่คุณซื้อก็มีความสำคัญเช่นกัน ยิ่งอาหารมีคุณภาพสูง ก็จะยิ่งให้ประโยชน์ต่อสุนัขมากขึ้น และคุณก็จะต้องเทลงชามให้น้องกินในปริมาณที่น้อยลง
ขนและการดูแลขนของสุนัขชาเป่ย
คุณลักษณะเด่นของสุนัขชาเป่ยรองจากผิวหนังเป็นรอยย่นคือขนแข็งๆ ขนของเขาชี้ตรงขึ้น คล้ายกับทรงผมแบบ butch-style ในยุค 1950 และจะมีความยาวแตกต่างกันไป ตั้งแต่ขนสั้นมากแบบ “ขนม้า” ไปจนถึงขนยาวกว่าหน่อยแบบ “ขนแปรง” คุณจะพบเห็นขนสีต่างๆ ได้แก่ ดำล้วน ครีม ฟอว์น แดง เซเบิ้ล และน้ำเงิน เขาจะผลัดขนน้อยมาก
อ่านต่อแม้ว่าสุนัขชาเป่ยจะเป็นสุนัขที่สะอาดโดยธรรมชาติและมีกลิ่นตัวน้อย เขาก็ต้องการการดูแลขนเล็กน้อยเพื่อให้ดูดีอยู่เสมอ การแปรงขนอย่างทั่วถึงสัปดาห์ละครั้งด้วยถุงมือยางหรือถุงมือแปรงขน ก็เพียงพอที่จะขจัดขนที่หลุดร่วงและสิ่งสกปรกแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องอาบน้ำบ่อยๆ ประมาณ 12 สัปดาห์ครั้งก็พอหากเขาไม่ได้ไปกลิ้งเล่นในโคลน การอาบน้ำบ่อยๆ มีแนวโน้มที่จะทำให้ผิวหนังระคายเคือง
การแปรงขนและอาบน้ำเป็นส่วนที่ง่ายของการดูแลขนสุนัขชาเป่ย ส่วนที่ยากแต่สำคัญมากคือการเช็ดตัวเขาให้แห้งหลังอาบน้ำ ถ้าคุณไม่เช็ดทุกร่องทุกรอยให้แห้งสนิท คุณคาดหวังได้เลยว่าจะต้องเจอกับปัญหาเชื้อรา เช็ดระหว่างรอยย่นให้ทั่วด้วยผ้าขนหนูแห้งเพื่อกำจัดความชื้นทั้งหมด
แปรงฟันให้สุนัขชาเป่ยอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งเพื่อขจัดคราบหินปูนและแบคทีเรียที่หลบซ่อนอยู่ แปรงทุกวันยิ่งดีหากคุณต้องการป้องกันโรคเหงือกและกลิ่นปาก
ตัดเล็บน้องเดือนละครั้งหรือสองครั้งหากเล็บไม่สึกหรอไปเองตามธรรมชาติ เพื่อป้องกันไม่ให้เล็บฉีกและมีปัญหาอื่นๆ ถ้าได้ยินเสียงเล็บเกี่ยวพื้น แสดงว่ายาวไป เล็บสุนัขมีหลอดเลือดอยู่ และหากคุณตัดไปโดนส่วนนั้น จะทำให้เกิดเลือดออก และน้องสุนัขก็อาจจะไม่ให้ความร่วมมือในครั้งต่อไปที่เห็นกรรไกรตัดเล็บ ดังนั้น ถ้าคุณไม่มีประสบการณ์การตัดเล็บสุนัข ให้สอบถามคำแนะนำจากสัตวแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสัตว์
ควรตรวจหูของน้องทุกสัปดาห์เพื่อหาร่องรอยของอาการไม่สบาย เช่น รอยแดงหรือกลิ่นเหม็น ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการติดเชื้อ เมื่อคุณกำลังตรวจดูหูสุนัข ให้ใช้สำลีชุบน้ำยาทำความสะอาดหูที่มีค่า pH สมดุลเช็ดหูด้านนอกเพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อ ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษกับหูของสุนัขชาเป่ย เพราะรูหูเล็กและมีแนวโน้มระคายเคืองและติดเชื้อได้ง่าย อย่าใช้สำลีก้านเช็ดทำความสะอาดหูชั้นใน และระวังอย่าให้น้ำเข้าหูเวลาอาบน้ำ อย่าแหย่อะไรเข้าไปในรูหู เพียงแค่ทำความสะอาดใบหูด้านนอกเฉยๆ
เริ่มทำให้สุนัขชาเป่ยของคุณคุ้นเคยกับการแปรงขนและการตรวจร่างกายตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข จับเท้าของเขาบ่อยๆ เพราะสุนัขมักจะไวต่อการถูกแตะต้องที่เท้า และดูด้านในปากของเขา ทำให้การดูแลขนเป็นประสบการณ์ในแง่บวกที่เต็มไปด้วยคำชมและรางวัล แล้วคุณจะวางรากฐานที่ดีสำหรับการตรวจสุขภาพและการจัดการอื่นๆ เมื่อน้องโตขึ้น
ในระหว่างที่คุณกำลังดูแลขนสุนัข ให้ตรวจหาแผล ผื่น หรือร่องรอยของการติดเชื้อ เช่น ผิวหนังมีอาการแดง บวม อักเสบ ตามจมูก ปาก ตา และเท้า ตาของน้องควรใสไม่มีอาการแดงหรือมีขี้ตา การตรวจร่างกายอย่างละเอียดทุกสัปดาห์จะช่วยให้คุณสังเกตเห็นปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
สุนัขชาเป่ยกับเด็กและสัตว์เลี้ยงอื่นๆ
สุนัขชาเป่ยเป็นสุนัขที่ผูกพันกับครอบครัว เขาจะปกป้องคนในครอบครัว รวมถึงเด็กๆ วิธีที่ดีที่สุดที่จะสอนให้น้องเข้ากับเด็กได้คือเลี้ยงดูให้เติบโตขึ้นมาพร้อมกับเด็ก หากเขาไม่ได้อยู่กับเด็ก ก็ควรพาเขาไปพบปะกับเด็กในช่วงที่เขากำลังเติบโต เนื่องจากสุนัขสายพันธุ์นี้เป็นสุนัขที่มีอิสระทางความคิดค่อนข้างสูง เขาจึงเหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กอายุ 10 ปีขึ้นไปที่รู้จักวิธีปฏิบัติต่อสัตว์เลี้ยงอย่างให้เกียรติ
อ่านต่อเช่นเดียวกับสุนัขทุกสายพันธุ์ คุณควรสอนเด็กๆ ให้รู้ว่าควรเข้าหาและสัมผัสสุนัขอย่างไร และคอยดูแลระหว่างที่สุนัขเล่นกับเด็กเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกัดหรือดึงหูหรือหาง สอนลูกๆ ว่าอย่าเข้าไปยุ่งเวลาที่สุนัขกำลังกินอาหารหรือหลับ หรือพยายามแย่งอาหารจากสุนัข ไม่ว่าจะเป็นสุนัขที่เป็นมิตรแค่ไหน ก็ไม่ควรปล่อยให้อยู่กับเด็กตามลำพังโดยไม่มีผู้ใหญ่ดูแล
เพื่อให้สุนัขชาเป่ยมีโอกาสเข้ากับสุนัขและสัตว์อื่นๆ ได้ดีที่สุด ควรให้เขาเติบโตขึ้นมาพร้อมกับพวกมันตั้งแต่เล็ก เนื่องจากเขามักมีนิสัยก้าวร้าวกับสุนัขตัวอื่น การดูแลอย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
บทสรุปสุนัขชาเป่ย
สุนัขชาเป่ยเป็นสุนัขที่มีเสน่ห์และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พวกเขาได้รับความนิยมในฐานะสัตว์เลี้ยงในครอบครัวเนื่องจากนิสัยจงรักภักดีและความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงสุนัขชาเป่ยเป็นเรื่องที่ท้าทายอยู่บ้าง เนื่องจากต้องการการฝึกฝนและการขัดเกลาอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการดูแลสุขภาพเป็นพิเศษเพื่อป้องกันปัญหาผิวหนังและโรคทางพันธุกรรมต่างๆ
หากคุณพร้อมที่จะอุทิศเวลาและความพยายามในการตอบสนองความต้องการของสุนัขชาเป่ย เขาจะตอบแทนด้วยความรักและความจงรักภักดีที่สุดแสนพิเศษ เป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ และเป็นผู้พิทักษ์ที่เข้มแข็ง มันเป็นความสัมพันธ์ที่คุ้มค่าสำหรับทั้งคุณและสุนัขชาเป่ยของคุณอย่างแน่นอน
น้องหมาอยากบอก
เจ้านายที่รักจ๋า อย่าลืมซื้ออาหารอร่อยๆ ให้หนูนะ น้องหิวแล้ว แล้วอย่าลืมของเล่นสนุกๆที่น้องชอบด้วยล่ะ และขอขนมแสนอร่อยที่หนูชื่นชอบด้วยนะโฮ่ง มันช่วยให้มีความสุขและพลังงานเต็มเปี่ยม อ้อ…อย่าลืมถุงเก็บอึสะอาดๆ ด้วยล่ะ ช่วยให้น้องขับถ่ายถูกที่ เจ้าของก็สบายใจ หนูรอของดีๆ จากเจ้านายอยู่นะ ปล.ถ้าไม่มีของพวกนี้ให้ หนูจะงอนเอานะ แต่เอ…จำไม่ได้ว่าบ้านเราใช้ยี่ห้อไหน เจ้านายที่รักลองกดเช็คของเลยนะครับ โบ๊ะ โบ๊ะ
Reference: แหล่งที่มา
Kawaiibear.com เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงแสนรัก ใจกลางภารกิจของเราคือความมุ่งมั่นในการให้ข้อมูล และคำแนะนำที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ทีมงานของเราประกอบด้วยกลุ่มคนที่รักสัตว์ที่พร้อมให้ข้อมูลและคำแนะนำที่มีคุณภาพ ภารกิจของเราเริ่มต้นจากวิสัยทัศน์ในการสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้รักสัตว์สามารถพึ่งพาได้ ในการค้นหาข้อมูลและผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับเพื่อนรักสี่ขา เราเข้าใจถึงความแตกต่างในความต้องการของสัตว์เลี้ยงแต่ละชนิด เราจึงทุ่มเทในการให้นำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ เราเจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์และข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง เพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุม ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่เว็บไซต์ แต่เป็นชุมชนของผู้ที่รักสัตว์ และต้องการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสัตว์เลี้ยงแสนรัก และเต็มไปด้วยความสุขสำหรับทุกคน