น้องมักจะระแวงคนแปลกหน้าตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมสำหรับสุนัขเฝ้ายามในพระราชวัง และน้องก็ทำหน้าที่ในการปกป้องอย่างจริงจัง ความซื่อสัตย์ของลาซายังหมายความว่า น้องชอบใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัว น้องฉลาด เป็นตัวของตัวเอง (สุนัขเฝ้ายามต้องคิดด้วยตัวเอง) และชอบซุกซน หากคุณกำลังพิจารณาเลี้ยงสุนัขลาซา คุณต้องคำนึงถึงธรรมชาติที่ชอบป้องกันของสายพันธุ์นี้

การฝึกและเข้าสังคมตั้งแต่เนิ่นๆ รวมถึงการเรียนรู้พื้นฐานสำหรับลูกสุนัข มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการเป็นสมาชิกครอบครัวของสุนัขลาซา เพื่อให้น้องสามารถควบคุมแนวโน้มตามธรรมชาติที่ชอบระแวงได้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม เวลาที่ลงทุนไปในการฝึกน้องนั้นคุ้มค่ามาก ในแง่ของความจงรักภักดี ความสุข และความเป็นเพื่อนที่สุนัขพันธุ์เล็กที่ทนทานและมีอายุยืนยาวตัวนี้มอบให้

สุนัขลาซาชอบทำอะไรในแบบของตัวเอง ซึ่งหมายความว่าเป้าหมายในชีวิตของน้องไม่จำเป็นต้องเป็นการทำให้คุณพอใจ ในเรื่องนี้ น้องแตกต่างจากสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ เช่น ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ ที่ชอบเชื่อฟัง แม้ว่าสุนัขลาซาจะสามารถฝึกได้ผลดี แต่น้องมักจะไม่ใช่สุนัขที่เชื่อฟังที่สุดในชั้นเรียน แต่คนที่รู้จักและรักสุนัขลาซา จะชื่นชมสติปัญญาและความสามารถพิเศษในการใช้เหตุผลของน้อง น้องยังมีแนวโน้มที่จะเจ้าเล่ห์ ดังนั้นความสม่ำเสมอจึงเป็นกุญแจสำคัญในการฝึกลูกสุนัขลาซา (เหมือนกับการเลี้ยงดูเด็กๆ) ถ้าคุณไม่เด็ดขาด สุนัขลาซาของคุณจะพยายามเป็นหัวหน้าแน่นอน

ไม่มีลูกสุนัขตัวไหนน่ารักไปกว่าลูกสุนัขลาซา ด้วยดวงตาเป็นประกายและขนฟูฟ่อง เจ้าตัวเล็กเหล่านี้ช่างอยากรู้อยากเห็นและเต็มไปด้วยพลัง น้องชอบเล่นมาก สุนัขลาซาเติบโตช้าและยังคงมีนิสัยเหมือนลูกสุนัขจนกระทั่งอายุสามปี เจ้าของใหม่ต้องคำนึงถึงสิ่งนี้เมื่อฝึกลูกสุนัขลาซา ไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจรู้สึกหงุดหงิดกับการที่สุนัขลาซาไม่ค่อยจริงจังกับการเรียนรู้ การฝึกขับถ่ายอาจเป็นเรื่องยาก แนะนำให้ฝึกเข้ากรง

เกี่ยวกับเรื่องขนของสุนัขลาซา มันช่างงดงาม ยาว หนา และสวยสง่า แต่การรักษาสภาพที่ดีของมันเป็นเรื่องยุ่งยาก ต้องหวีและแปรงขนทุกวัน และอาบน้ำบ่อยๆ จึงจะทำให้ขนของสุนัขลาซาดูดีและมีกลิ่นหอม เจ้าของบางคนเลือกที่จะตัดขนให้สั้น หรือตัดแต่งขนรอบใบหน้า หากคุณกำลังพิจารณาเลี้ยงสุนัขลาซา คุณต้องรู้ว่าจะต้องดูแลขนเยอะมาก หรือไม่ก็จะต้องสนิทสนมกับช่างตัดขนมืออาชีพ

จะเลี้ยงสุนัขลาซากับเด็กดีไหม? คุณควรตระหนักว่า สุนัขลาซามักจะไม่อดทนกับความซุกซนปกติของเด็ก น้องชอบสร้างความผูกพันกับผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก แต่ก็ไม่ได้เป็นกฎตายตัว เด็กโตหรือเด็กเล็กที่อ่อนโยนเป็นพิเศษ สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับสุนัขลาซาได้ หากคุณต้องการสุนัขที่เหมาะกับเด็ก100% สุนัขลาซาอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี สุนัขลาซามีอายุค่อนข้างยืน 12-15 ปีไม่ใช่เรื่องแปลก บางตัวอายุถึง 17-20 ปี

ขนหนาของสุนัขลาซาช่วยปกป้องน้องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นและร้อนจัดในทิเบต ประวัติของน้องถูกบันทึกย้อนไปถึง 800 ปีก่อนคริสตกาล สุนัขลาซาถูกมองว่านำโชคดีมาให้ แต่แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะซื้อน้อง เพราะน้องเป็นสุนัขเฝ้ายามในวัดและอารามจึงถือว่าศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนเชื่อว่าเมื่อเจ้าของเสียชีวิต วิญญาณของเขาจะเข้าไปอยู่ในร่างของสุนัขลาซา แอปโซ

สุนัขลาซาไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากประเทศ ยกเว้นเมื่อถูกมอบให้เป็นของขวัญโดยองค์ทะไลลามะ ตั้งแต่ต้นราชวงศ์แมนจูในปี 1583 จนถึงปี 1908 องค์ทะไลลามะส่งสุนัขลาซาเป็นของขวัญศักดิ์สิทธิ์ให้จักรพรรดิจีนและคนในราชวงศ์ โดยมอบให้เป็นคู่ๆ และเชื่อว่าจะนำโชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองมาให้

สุนัขลาซาตัวแรกๆ ที่เข้ามาในสหรัฐอเมริกาโดยตรง เป็นของขวัญจากองค์ทะไลลามะองค์ที่ 13 ในปี 1933 มอบให้แก่ C. Suydam Cutting นักเดินทางและนักธรรมชาติวิทยา Cutting เป็นเจ้าของฟาร์ม Hamilton ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ และสุนัขทั้งสองตัวที่ได้รับกลายเป็นต้นตระกูลของสุนัขลาซาในรั้วของเขา สมาคมสุนัขอเมริกัน (AKC) ยอมรับสุนัขลาซา แอปโซ เป็นสายพันธุ์อย่างเป็นทางการในปี 1935

แม้ว่าสุนัขลาซาจะมีขนาดเล็ก แต่น้องไม่บอบบางเลย น้องแข็งแรงและเข้มแข็ง และมีนิสัยระแวดระวังคนแปลกหน้าโดยธรรมชาติ น้องยินดีที่จะผูกมิตรกับคน แต่ต้องรู้ก่อนว่าคนๆ นั้นไม่ได้เป็นภัยคุกคาม น้องเป็นสุนัขเฝ้ายามที่ยอดเยี่ยม สุนัขลาซาที่เป็นตัวของตัวเองชอบเป็นจ่าฝูง

การฝึกและการเข้าสังคม ตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข มีความสำคัญอย่างยิ่ง มันจะสอนให้น้องมีมารยาทที่ดีและป้องกันไม่ให้น้องคิดว่าตัวเองสามารถควบคุมครอบครัวได้ เจ้าของลาซาจะต้องเป็นผู้นำที่เข้มแข็งและใจดี สุนัขลาซาไม่ค่อยชอบกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานมากและพอใจที่จะอยู่ในร่ม แต่ก็ยังชอบและได้ประโยชน์จากการพาออกไปเดินเล่นสั้นๆ และเล่นเกม

สุนัขลาซาชอบอยู่ใกล้ชิดครอบครัว ติดตามไปทุกห้องและเข้าร่วมกิจกรรม หรือนั่งอยู่บนตัก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากนิสัยที่เป็นอิสระ น้องจึงโอเคที่จะอยู่บ้านตามลำพังในช่วงเวลาที่พอเหมาะ โดยปกติสุนัขลาซาจะไม่มีปัญหากลัวการพลัดพราก

Cherry Eye เป็นอาการที่เกิดจากต่อมน้ำตาดื้อที่สาม บวม ทำให้ดูเหมือนมีก้อนสีแดง (เหมือนลูกเชอร์รี่) ที่มุมด้านในของตาสุนัข การรักษา Cherry Eye มักจะใช้การผ่าตัด

Patellar Luxation หรือที่รู้จักในชื่อ สะบ้าเคลื่อน เป็นปัญหาที่พบบ่อยในสุนัขพันธุ์เล็ก Patella คือกระดูกสะบ้า Luxation หมายถึงการเคลื่อนที่ผิดปกติของกระดูก (เช่น กระดูกหลุดออกจากข้อ) Patellar Luxation เกิดขึ้นเมื่อข้อเข่า (มักเป็นขาหลัง) เคลื่อนเข้าออก ทำให้เจ็บปวด ซึ่งอาจทำให้พิการได้ แม้ว่าสุนัขจำนวนมากจะใช้ชีวิตได้ค่อนข้างปกติกับอาการนี้

ภูมิแพ้ เป็นโรคที่พบบ่อยในสุนัข และสุนัขลาซา แอปโซ ก็ไม่ได้เป็นข้อยกเว้น มีภูมิแพ้ 3 ประเภทหลักคือ ภูมิแพ้อาหาร ซึ่งรักษาโดยการงดอาหารบางชนิดในอาหารของสุนัข, ภูมิแพ้สัมผัส ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาต่อสิ่งต่างๆ เช่น ที่นอน ผงกำจัดเห็บหมัด แชมพูสุนัข และสารเคมีอื่นๆ และภูมิแพ้ทางเดินหายใจ เกิดจากสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ เช่น ละอองเกสร ฝุ่น และเชื้อรา การรักษาจะแตกต่างกันตามสาเหตุ และอาจรวมถึงการจำกัดอาหาร การใช้ยา และการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม

หากคุณไม่แน่ใจว่าน้องอ้วนไปหรือเปล่า ให้ทำการทดสอบง่ายๆ ด้วยการมองและการสัมผัส ขั้นแรก มองลงไปที่น้อง คุณควรเห็นรอบเอวได้ จากนั้นวางมือบนหลังของน้อง โดยให้นิ้วโป้งขนานกับกระดูกสันหลัง แล้วแผ่นิ้วลงด้านล่าง คุณควรจะสามารถสัมผัสได้ แต่ไม่เห็นซี่โครงของน้องโดยไม่ต้องกดแรง หากทำไม่ได้ แสดงว่าน้องต้องการอาหารน้อยลงและออกกำลังกายมากขึ้น

เจ้าของสุนัขลาซาหลายคนเลือกที่จะจ้างช่างตัดขนมืออาชีพ เพราะถึงแม้เจ้าของที่ขยันจะสามารถเรียนรู้การดูแลขนสุนัขลาซาได้ แต่ก็ไม่ใช่งานที่เหมาะสำหรับมือใหม่ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เจ้าของจะตัดขนสุนัขลาซาให้สั้นลง เพื่อลดภาระในการดูแล ขนที่ยาวสลวยหายไป แต่สิ่งที่เหลืออยู่จะดูแลง่ายกว่ามาก

แปรงฟันให้สุนัขลาซาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อขจัดคราบหินปูนและแบคทีเรียที่ซ่อนอยู่ การแปรงฟันทุกวันจะดีที่สุด หากคุณต้องการป้องกันโรคเหงือกและกลิ่นปาก

ตัดเล็บน้องเดือนละครั้งหรือสองครั้ง หากน้องไม่สึกเล็บตามธรรมชาติ เพื่อป้องกันการฉีกขาดและปัญหาอื่นๆ หากคุณได้ยินเสียงเล็บของน้องกระทบพื้น แสดงว่ายาวเกินไป เล็บสุนัขมีหลอดเลือดอยู่ด้านใน และหากคุณตัดลึกเกินไปอาจทำให้เกิดเลือดออกได้ ครั้งต่อไปเมื่อน้องเห็นคุณหยิบที่ตัดเล็บ น้องอาจไม่ให้ความร่วมมือ ดังนั้น หากคุณไม่มีประสบการณ์ในการตัดเล็บสุนัข ให้ขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์หรือช่างตัดขน

ตรวจหูของน้องทุกสัปดาห์ว่ามีรอยแดงหรือกลิ่นเหม็นหรือไม่ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการติดเชื้อ เมื่อคุณตรวจหูของสุนัข ให้เช็ดหูด้วยสำลีชุบน้ำยาทำความสะอาดหูที่อ่อนโยนและสมดุลกับ pH เพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อ อย่าใส่สิ่งใดลงในช่องหู เพียงแค่ทำความสะอาดใบหูด้านนอก

เริ่มทำให้สุนัขลาซาคุ้นเคยกับการแปรงขนและตรวจร่างกายตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข จับอุ้งเท้าของน้องบ่อยๆ – สุนัขมักจะไวต่อการสัมผัสบริเวณเท้า และมองเข้าไปในปากของน้อง ทำให้การดูแลเป็นประสบการณ์ที่ดีที่เต็มไปด้วยคำชมและรางวัล และคุณจะได้วางรากฐานสำหรับการตรวจสุขภาพและการจัดการอื่นๆ เมื่อน้องโตขึ้น

ระหว่างดูแล ให้ตรวจดูแผล ผื่น หรือสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น ผิวหนังแดง บวม หรืออักเสบ ที่จมูก ปาก ตา และเท้า ตาของสุนัขควรใส ไม่แดงหรือมีขี้ตา การตรวจร่างกายรายสัปดาห์อย่างระมัดระวัง จะช่วยให้คุณสามารถสังเกตเห็นปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

ถ้าได้รับการฝึกและเข้าสังคมอย่างเหมาะสม สุนัขลาซาจะเข้ากับสุนัขตัวอื่นได้ดี น้องชอบเป็นจ่าฝูง ดังนั้นจึงมักจะเป็นผู้นำ แม้แต่เมื่ออยู่กับสุนัขตัวใหญ่กว่ามากๆ น้องไม่กลัวที่จะเข้าร่วมกิจกรรมที่มักจะเชื่อมโยงกับสุนัขตัวใหญ่ เช่น การเดินป่าหรือสกีข้ามทุ่ง สุนัขลาซาคิดว่าตัวเองเป็นสุนัขตัวใหญ่ และยังสามารถเข้ากับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ได้ดีเช่นกัน หากได้รับการแนะนำและฝึกฝนอย่างเหมาะสม