อาหารสุนัขสูตรฮอลิสติก ดีอย่างไรและควรเปลี่ยนเมื่อไหร่

รู้ไหมว่าเมนูโปรดของน้องหมาส่งผลต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด

เห็นน้องหมาเหมียวหน้าตาเป็นสุขทุกครั้งที่ได้กินอาหารก็ดีใจใช่ไหม แต่เคยสงสัยไหมว่าอาหารที่เราเลือกให้เค้าทุกวันนี้คือสิ่งที่ร่างกายเค้าต้องการจริงๆ หรือเปล่า ถ้าอยากให้เพื่อนซี้สี่ขามีสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก ลองมาทำความรู้จัก “อาหารสุนัขสูตรฮอลิสติก” ทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของน้องหมาแบบองค์รวม

 

ไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับอาหารสุนัขสูตรฮอลิสติก

อาหารฮอลิสติกคืออะไร ต่างจากอาหารทั่วไปยังไง

อาหารสูตรนี้ไม่ใช่แค่เมนูธรรมดา แต่เป็นอาหารที่คิดมาอย่างละเอียดรอบด้าน ทั้งคุณค่าทางโภชนาการ สารอาหารครบถ้วนจากวัตถุดิบธรรมชาติ 100% โดยปราศจากสารเคมี สารกันบูด หรือวัตถุดิบเหลือใช้จากโรงงาน ไม่เหมือนอาหารเม็ดทั่วไปที่บางยี่ห้ออาจมีแป้งหรือเศษเนื้อคุณภาพต่ำเป็นส่วนประกอบหลัก

5 ข้อดีที่ทำให้น้องหมาสุขภาพดีแบบยั่งยืน

1. ผิวหนังและขนสุขภาพดี โอเมก้า 3 จากน้ำมันปลาธรรมชาติช่วยลดการอักเสบ
2. ระบบย่อยทำงานคล่องตัว มีไฟเบอร์จากผักผลไม้ช่วยในการขับถ่าย
3. ภูมิคุ้มกันแข็งแรง สารต้านอนุมูลอิสระจากสมุนไพรบำรุง
4. พลังงานเต็มเปี่ยม โปรตีนจากเนื้อสัตว์คุณภาพสูงดูดซึมง่าย
5. ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง ไม่มีสารปนเปื้อนที่ก่อให้เกิดมะเร็ง

วัตถุดิบต้องห้ามในอาหารฮอลิสติก

• เนื้อสัตว์ที่ไม่ระบุแหล่งที่มา (เช่น “เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์”)
• สีสังเคราะห์หรือรสชาติเทียม (พบในอาหารเม็ดสีสันสดใส)
• ข้าวโพดหรือถั่วเหลือง GMO ที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้

สัญญาณเตือน น้องหมาของเพื่อนๆอาจต้องการเปลี่ยนอาหาร

• คันผิวหนังหรือขนร่วงเป็นหย่อม
• มีกลิ่นตัวแรงผิดปกติ
• อุจจาระไม่เป็นก้อนหรือมีกลิ่นเหม็นคาว
• ซึมไม่ร่าเริงเหมือนเคย

ทำไมเพื่อนรักสี่ขาของเพื่อนๆถึงควรกินอาหารฮอลิสติก

ลองนึกภาพสิคะน้องหมาของเพื่อนๆจะมีชีวิตที่สดใสขึ้นแค่ไหนถ้าเค้าได้กินอาหารที่ดีต่อร่างกายทุกวัน ไม่ต้องทนทุกข์กับอาการคันจากสารเคมีตกค้าง ไม่ต้องเสี่ยงกับโรคไตเพราะเจอสารกันบูดทุกมื้อ แถมยังอายุยืนแข็งแรงไปด้วยกันกับเราได้นานๆ

 

อาหารฮอลิสติกไม่ใช่แค่เรื่องของสัตว์เลี้ยงแต่มันคือ “การลงทุนในความสุขระยะยาว” ของทั้งคุณและน้องหมาเลยล่ะ

มาเริ่มเปลี่ยนอาหารให้น้องหมาวันนี้กันเถอะ

อย่ารอให้เค้ามีอาการป่วยก่อนแล้วค่อยมาแก้ไขนะ เพื่อนรักของเราสมควรได้สิ่งที่ดีที่สุดตั้งแต่ตอนนี้ ลองทำตามขั้นตอนง่ายๆ นี้ดูไหม

 

1. สังเกตพฤติกรรมและอาการของน้องหมา จดบันทึกว่ามีสัญญาณอะไรที่บอกว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนอาหาร
2. ปรึกษาสัตวแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำสูตรที่เหมาะสมกับสายพันธุ์และวัย
3. เปลี่ยนอาหารแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยผสมอาหารเก่ากับใหม่ในสัดส่วน 2575 แล้วค่อยเพิ่มขึ้น
4. เลือกยี่ห้อที่ไว้ใจได้ ตรวจสอบฉลากว่ามีการรับรองมาตรฐานหรือไม่

แค่เริ่มต้นวันนี้อีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า คุณอาจจะเห็นเพื่อนซี้ตัวดีกลับมามีพลังงานกระฉูดอีกครั้ง แล้วคุณล่ะพร้อมให้โอกาสใหม่กับสุขภาพน้องหมาแล้วหรือยัง

 

ArticleID: 2293