อาหารสุนัขสำหรับสุนัขน้ำหนักเกิน วิธีเปลี่ยนสูตรเพื่อควบคุมน้ำหนัก

น้องหมาอ้วนเกินไปหรือเปล่า ระวังสุขภาพจะแย่นะ

เห็นน้องหมานั่งหอบ หัวใจก็แทบสลาย… น้ำหนักเกินไม่ได้แค่ทำให้น้องดูน่ากอดขึ้น แต่เสี่ยงโรคร้ายแรงมากมายเลยนะ ถ้าน้องเริ่มเดินช้า ขี้เกียจเล่น หรือมีพุงพลุ้ยๆ นี่คือสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาต้องปรับอาหารแล้วล่ะ

 

เราเข้าใจว่าการเห็นน้องหมาทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยคือความสุขของเจ้าของ แต่ถ้าปล่อยให้น้องอ้วนไปเรื่อยๆ อาจนำไปสู่โรคเบาหวาน ข้อเข่าเสื่อม หรือแม้กระทั่งโรคหัวใจ อย่าปล่อยให้ความรักทำร้ายสุขภาพน้อง… มาเริ่มดูแลน้ำหนักของเขาอย่างถูกวิธีกันดีกว่า

วิธีเลือกและปรับอาหารสุนัขน้ำหนักเกินแบบได้ผลจริง

1. รู้ปัญหาก่อนแก้ สุนัขน้ำหนักเกินเสี่ยงอะไรบ้าง

• โรคข้อต่อเสื่อม น้ำหนักตัวกดทับข้อเข่า สุนัขเคลื่อนไหวลำบาก
• โรคหัวใจและความดันสูง ไขมันสะสมทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานหนัก
• เบาหวาน พบในสุนัขอ้วนสูงถึง 40%
• อายุสั้นลง วิจัยพบว่าสุนัขอ้วนมีอายุสั้นกว่าสุนัขน้ำหนักปกติ 2-3 ปี

2. เลือกสูตรอาหารแบบไหนดี ต้องดู 3 เรื่องหลัก

(1) แคลอรี่ต่ำแต่โภชนาการครบ

• หาอาหารที่มีคำว่า Weight Control, Light, หรือ Low-Calorie
• เน้นโปรตีนสูง (อย่างน้อย 25%) เพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อ
• ใยอาหารเยอะ ช่วยให้อิ่มนาน (มองหา ingredients เช่น ฟักทอง มันเทศ)

(2) หลีกเลี่ยงส่วนผสมทำให้น้ำหนักขึ้น

• ไขมันสัตว์สูง เช่น น้ำมันไก่ เนย
• คาร์โบไฮเดรตขัดสี ข้าวสาลี ข้าวโพด (ย่อยเร็ว ทำให้น้องหิวบ่อย)
• น้ำตาลแฝง มอลโตเดกซ์ทริน กูลโคสไซรัป

(3) ปริมาณที่เหมาะสม วัดให้แม่น

• ใช้สูตรคำนวณแคลอรี่ (น้ำหนัก x 30) + 70 = kcal/วัน
• ตัวอย่าง สุนัขควรหนัก 10 กก. ⇒ (10×30)+70 = 370 kcal/วัน
• อย่าให้ขนมเกิน 10% ของแคลอรี่รายวัน

3. เทคนิคเพิ่มเติม ช่วยให้น้องลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย

• แบ่งมื้ออาหาร เป็น 3-4 มื้อเล็กๆ ช่วยควบคุมความหิว
• เพิ่มผักปลอดภัย เช่น แครอทต้ม ฟักทอง (ช่วยเพิ่มปริมาณอาหารโดยไม่เพิ่มแคลฯ)
• ออกกำลังกายช้าๆ เริ่มจากเดินเบาๆ 15 นาที/วัน ก่อนเพิ่มความหนัก

ทำไมต้องเริ่มวันนี้ นี่คือสิ่งที่ได้ถ้าน้องหมาลดน้ำหนักสำเร็จ

• สุขภาพแข็งแรงขึ้น ลดเสี่ยงโรคเรื้อรังทุกชนิด
• พลังงานเพิ่ม น้องจะกระฉับกระเฉง อยากเล่นเหมือนเดิม
• อายุยืนยาว ใช้เวลาร่วมกันได้นานขึ้น แค่คิดก็ยิ้มแล้วใช่ไหมล่ะ

แค่ปรับอาหารนิดหน่อย + ดูแลอย่างสม่ำเสมอ น้องหมาจะกลับมาฟิตแอนด์เฟิร์มอีกครั้ง และที่สำคัญ… เราจะไม่ต้องมานั่งกลัวว่า “ทำไมน้องไม่ยอมขยับตัว” หรือ “ทำไมถึงป่วยบ่อย” อีกต่อไป

มาเริ่มปรับสูตรอาหารให้น้องหมาเลยดีกว่า

อย่าผัดวันประกันพรุ่งแล้วนะ… เพราะทุกวันที่เราชะลอคือสุขภาพที่เสียไปของน้อง ลองทำตามนี้ทีละขั้นตอน

 

1. ชั่งน้ำหนักน้อง บันทึกไว้เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์
2. สำรวจอาหารปัจจุบัน ดูแคลอรี่และส่วนผสมว่าต้องเปลี่ยนไหม
3. เลือกสูตรใหม่ ตามคำแนะนำด้านบน หรือปรึกษาสัตวแพทย์
4. ตั้งเป้าเล็กๆ เช่น ลดน้ำหนัก 3-5% ภายใน 2-3 เดือน

เรารู้ว่าการเปลี่ยนแปลงอาจยาก первыеครั้ง แต่เชื่อเถอะ… แค่เห็นน้องหายใจคล่อง วิ่งเล่นได้เหมือนเก่า ทุกความพยายามจะคุ้มค่าทันที

เริ่มวันนี้เพื่อน้องหมาที่แข็งแรงกว่าเดิมนะ แล้วอย่าลืมมาแชร์ผลลัพธ์ให้เราฟังด้วยล่ะ )

 

ArticleID: 2299