อาหารสุนัขพันธุ์เล็ก vs พันธุ์ใหญ่ แตกต่างอย่างไร

เห็นน้องหมาตัวน้อยวิ่งกรู๋กรี้ยอยู่บนพื้นหรือยัง หรือเจ้าโต้งตัวใหญ่ที่วิ่งมาโอบกอดเราทุกเช้า ไม่ว่าสุนัขของเพื่อนๆ จะตัวเล็กนิดเดียวหรือใหญ่เท่าหมี พวกเขาก็ต้องการอาหารที่เหมาะสมกับขนาดตัวของเขา แล้วเพื่อนๆ รู้ไหมว่าอาหารสุนัขพันธุ์เล็กและใหญ่แตกต่างกันยังไง ถ้ายังมาค้นหาคำตอบไปด้วยกันเลย

 

1. ความต้องการพลังงานต่างกัน

สุนัขพันธุ์เล็ก เช่น ชิวาวา ปอมเมอเรเนียน หรือยอร์คเชียร์เทอร์เรียร์ มีระบบเผาผลาญที่เร็วมาก เพราะพวกเขามีพลังงานเหลือเฟือสำหรับการวิ่งเล่นทั้งวัน ดังนั้นอาหารสำหรับน้องพันธุ์เล็กจึงต้องให้พลังงานสูง เน้นแคลอรีที่เข้มข้น แต่ในปริมาณที่พอดีกับกระเพาะเล็กๆ ของพวกเขา

ในทางกลับกัน สุนัขพันธุ์ใหญ่ เช่น โกลเดนรีทรีฟเวอร์ เซนต์เบอร์นาร์ด หรือลาบราดอร์ ต้องการพลังงานที่ควบคุมอย่างเหมาะสม เพราะหากให้อาหารที่ให้แคลอรีสูงเกินไป อาจเสี่ยงต่อโรคอ้วนและปัญหาไขข้อในอนาคต

2. ขนาดเม็ดอาหารสำคัญกว่าที่คิด

เพื่อนๆ เคยสังเกตไหมว่าเม็ดอาหารของน้องหมาพันธุ์เล็กจะเล็กจิ๋ว ส่วนพันธุ์ใหญ่จะใหญ่กว่ามาก นี่ไม่ใช่แค่เรื่องความน่ารัก แต่เป็นเรื่องของสุขภาพช่องปากและระบบย่อยอาหาร

• สุนัขพันธุ์เล็ก เม็ดอาหารเล็กช่วยให้เคี้ยวง่าย ลดการสะสมของหินปูน และป้องกันการสำลัก
• สุนัขพันธุ์ใหญ่ เม็ดอาหารใหญ่ช่วยกระตุ้นการเคี้ยว ช่วยทำความสะอาดฟัน และชะลอการกินเพื่อป้องกันท้องอืด

3. สารอาหารเสริมเฉพาะทาง

โปรตีนและไขมัน

• สุนัขพันธุ์เล็กต้องการโปรตีนและไขมันสูงเพื่อเสริมพลังงาน
• สุนัขพันธุ์ใหญ่ต้องการโปรตีนคุณภาพสูงเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ แต่ต้องควบคุมไขมันเพื่อไม่ให้น้ำหนักเกิน

กลูโคซามีนและคอนดรอยทิน

สุนัขพันธุ์ใหญ่มักมีปัญหาเรื่องข้อเข่า ดังนั้นอาหารของพวกเขาจึงมักเสริมสารเหล่านี้เพื่อบำรุงข้อต่อ ในขณะที่สุนัขพันธุ์เล็กอาจไม่จำเป็นต้องได้รับในปริมาณที่มากเท่า

ไฟเบอร์และพรีไบโอติกส์

เนื่องจากสุนัขพันธุ์เล็กมีระบบย่อยที่บอบบางกว่า อาหารของพวกเขาจึงมักมีไฟเบอร์และพรีไบโอติกส์เพื่อช่วยในการย่อยและลดปัญหาท้องเสีย

ทำไมเพื่อนๆ ควรใส่ใจกับอาหารที่แตกต่างระหว่างสุนัขพันธุ์เล็กและใหญ่ เพราะนี่คือสิ่งที่ช่วยให้หมาของเพื่อนๆ

 

• มีสุขภาพแข็งแรง ลดความเสี่ยงโรคอ้วนและข้อต่อ
• อายุยืนยาวขึ้น จากการได้รับสารอาหารที่เหมาะสม
• พลังงานเต็มเปี่ยม สำหรับการเล่นและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

แค่เลือกอาหารให้ถูกขนาด ก็เหมือนให้ของขวัญสุขภาพที่ดีที่สุดกับน้องหมาแล้ว

ถึงเวลาลงมือแล้วนะ ลองทำตามขั้นตอนง่ายๆ นี้ดูสิ
1. ตรวจสอบขนาดเม็ดอาหาร ว่าพอดีกับปากน้องหมาหรือเปล่า
2. อ่านฉลากส่วนผสม ให้แน่ใจว่าเหมาะกับพันธุ์และขนาดตัวของน้อง
3. สังเกตพฤติกรรมหลังกินอาหาร ถ้าน้องมีพลังงานดี ไม่ท้องอืด หรือขนสวย แสดงว่าเหมาะแล้ว

 

ถ้ายังลังเล ลองปรึกษาสัตวแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาอาหารที่ดีที่สุดให้กับเพื่อนซี้สี่ขาของเพื่อนๆ นะ แล้วอย่าลืมมาแชร์ประสบการณ์การเลือกอาหารให้สุนัขกันด้วย

 

ArticleID: 1678