Collie คอลลี่

สุนัขคอลลี่ Collie

สุนัขคอลลี่ Collie หรือที่หลายคนอาจคุ้นเคยในชื่อ “Lassie dog” เป็นสุนัขขนาดกลางถึงใหญ่ มีขนยาวสลวยสวยงาม อารมณ์ดี เป็นกันเองกับทุกคน มีอยู่ 2 สายพันธุ์คือ Smooth Collies และ Rough Collies โดยสายพันธุ์ Smooth จะมีขนที่สั้นและเรียบกว่า ส่วนสายพันธุ์ Rough จะมีขนยาวและหนาซึ่งต้องดูแลเป็นพิเศษ

เชื่อกันว่าสุนัขคอลลี่มาพร้อมกับชาวโรมันที่เดินทางมายังอังกฤษเมื่อประมาณ 500 ปีก่อนคริสตกาล แต่จนกระทั่งถึงช่วงศตวรรษที่ 18 เมื่ออยู่ในสกอตแลนด์ พวกน้องจึงจะถูกยอมรับอย่างแท้จริงว่าเป็นสายพันธุ์ที่โดดเด่น ในยุคนั้นสุนัขคอลลี่ถูกใช้ในการเลี้ยงปศุสัตว์ ซึ่งก็ยังคงเป็นหน้าที่หลักของพวกน้องมาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากความสามารถในการดูแลฝูงสัตว์แล้ว สุนัขคอลลี่ก็ได้รับความนิยมในการเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยงในครอบครัวด้วย เนื่องจากเป็นน้องที่ฉลาดมาก เรียนรู้ได้ไว พร้อมที่จะเชื่อฟัง จึงง่ายต่อการฝึก นี่เป็นอีกข้อดีของการเลี้ยงดูสุนัขสายพันธุ์นี้ แต่อย่างไรก็ตาม เหมือนกับสุนัขทุกสายพันธุ์ ลูกสุนัขคอลลี่จำเป็นต้องได้รับการขัดเกลาตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อป้องกันการเติบโตมาเป็นสุนัขที่ขี้อายหรือก้าวร้าว

บทความนี้ แอดแบรี่จะพาเพื่อนๆไปสู่โลกของน้องคอลลี่ นะคะทั้งอาหารการกิน การเลี้ยงดูน้องๆให้แข็งแรง การรักษาน้องยามเจ็บป่วย อย่างครบถ้วนสมบูรณ์เลยค่ะ

 

Discount Banner

แอมบลิโกไนต์ Amblygonite โลโดไรท์ Lodolite โลโดไรท์ Lodolite
7-11 logo Logo-Shopee Lazada-Logo

ข้อมูลทั่วไปสุนัขคอลลี่

ข้อมูลทั่วไป

logo
แหล่งกำเนิด สก็อตแลนด์และภาคเหนือของอังกฤษ
ขนาด สุนัขคอลลี่เป็นสุนัขขนาดกลาง มีความสูงประมาณ 56.0 – 66.0 ซม. และมีน้ำหนักระหว่าง 20.4 – 34.0 กก.
กลุ่มสายพันธุ์ สุนัขต้อนฝูง
อายุขัย 10 – 14 ปี
ลักษณะภายนอก สุนัขคอลลี่มีขนยาว หนา เป็นได้ทั้งแบบเรียบหรือหยาบ สีขนอาจเป็นสีใดก็ได้ แต่สีที่พบบ่อยคือสีดำ ขาว และตัวมีสามสี
อุปนิสัย สุนัขคอลลี่ฉลาด ซื่อสัตย์ และขยันทำงานหนัก พวกน้องมีความกระฉับกระเฉงและต้องการออกกำลังกายมาก
สุขภาพ โดยปกติแล้วเป็นสุนัขที่มีสุขภาพดี แต่บางตัวอาจมีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น ข้อสะโพกเสื่อม ข้อศอกเสื่อม และ Collie eye anomaly

 

ภาพรวมของสุนัขคอลลี่

ในละครทีวีชื่อดังอย่าง Lassie ในยุค 1950 คุณจะรู้ว่าสุนัขคอลลี่พร้อมจะมาช่วยเหลือเสมอ ไม่ว่า Timmy จะติดอยู่ในเหมืองร้างหรือตกลงไปในบ่อน้ำ สุนัขนำแสดงในละครที่ออกอากาศยาวนานเรื่องนี้ ไม่ได้เป็นแค่สุนัขธรรมดา แต่เป็น Lassie สุนัขพันธุ์คอลลี่! แน่นอนว่าการผจญภัยของ Timmy และ Lassie นั้นดูสนุกและน่าตื่นเต้น แต่นั่นเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจริงหรือเปล่า? ตามคำบอกเล่าของผู้ที่รู้จักและรักสุนัขสายพันธุ์นี้ เรื่องราวของ Lassie ในโทรทัศน์ก็ไม่ได้ไกลจากความเป็นจริงมากนัก เพราะในชีวิตจริงสุนัขคอลลี่มีความฉลาดไหวพริบสูง เป็นสัตว์ที่มีความรู้สึกรับรู้อย่างดี มีเรื่องเล่าอย่างไม่ขาดสายว่าสุนัขสายพันธุ์นี้สามารถช่วยเหลือผู้คนและสัตว์อื่นๆ ได้

อ่านต่อ

นอกจากจะเป็นฮีโร่แล้ว สุนัขคอลลี่ก็เป็นสัตว์ที่มีขนาดกลางๆ (หนัก 22 ถึง 32 กิโลกรัม) ฝึกง่าย ภักดีต่อครอบครัวและพร้อมที่จะปกป้องครอบครัวเสมอ ขณะเดียวกันก็เข้ากับคนนอกได้เป็นอย่างดี เป็นที่รู้จักกันดีว่าพวกน้องชอบเล่นและอ่อนโยน จึงเป็นเพื่อนที่ดีเลิศสำหรับเด็กๆ แม้ว่าสุนัขคอลลี่จะมีอารมณ์ดี เป็นมิตรกับทุกคน แต่ก็อาจจะระแวงคนแปลกหน้าได้บ้าง โดยเฉพาะถ้าเป็นคนที่เข้ามาใกล้ลูกๆ ในครอบครัว พวกน้องเป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ดี จะเห่าเมื่อมีอะไรผิดปกติ แต่ก็ไม่ได้ดุร้าย

สุนัขคอลลี่มีรูปลักษณ์ที่สวยงาม แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะคือ ขนยาวเต็ม (เรียกว่า Rough) และขนสั้นเรียบ (เรียกว่า Smooth) สุนัขนำแสดงในละครทีวีและในภาพยนตร์เรื่อง Lassie Come Home (1943) ที่ดังไปทั่วโลกและเป็นแรงบันดาลใจให้ละครทีวีนั้นเป็นสายพันธุ์ Rough ปัจจุบันเรามักจะเห็นสุนัขคอลลี่ในฐานะสัตว์เลี้ยงที่ถูกตามใจมากกว่าสุนัขต้อนแกะอเนกประสงค์ในฟาร์ม น้องๆ สามารถปรับตัวได้ดีกับสิ่งแวดล้อมในบ้านหลายแบบ แต่ต้องมีการออกกำลังกายทุกวัน น้องสนุกกับการวิ่งเล่นข้างนอกกับเด็กๆ เท่าๆ กับการได้อยู่ในบ้านเฉยๆ ใกล้ชิดกับครอบครัว สัญชาตญาณในการต้อนฝูงของสุนัขคอลลี่ยังคงอยู่ ดังนั้นจะเห็นน้องๆ พยายามรวบรวมเด็กๆ และสัตว์เลี้ยงในบ้านเข้ามาไว้ด้วยกัน วิ่งไล่รถ และส่งเสียงเห่า นอกจากการดูแลปศุสัตว์แล้ว สุนัขคอลลี่ยังเก่งในการเป็นผู้ช่วยหรือใช้บำบัด เหมาะกับการใช้แข่งขันกีฬาหลายประเภทของสุนัข เช่น herding trials, agility, obedience และ lure coursing ภาพยนตร์และละครทีวีทำให้สุนัขคอลลี่เป็นที่นิยมไปทั่วอเมริกา

แต่อย่างที่เรารู้กันดีว่าความโด่งดังสุดขีดก็มีผลเสียตามมา ผู้เพาะพันธุ์ที่เห็นแก่ได้และไร้จริยธรรมบางราย ไม่ได้คำนึงถึงอุปนิสัย สุขภาพ และสัดส่วนของสุนัข จึงทำให้สุนัขคอลลี่บางส่วนมีปัญหาเรื่องสุขภาพและนิสัยที่รุนแรง ถ้าคุณกำลังพิจารณาจะเลี้ยงสุนัขคอลลี่ คุณต้องเลือกซื้อหรือรับเลี้ยงด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่าซื้อลูกสุนัขจากผู้เพาะพันธุ์ที่ไม่รับผิดชอบ จากโรงเพาะพันธุ์ หรือ pet shop เด็ดขาด ผู้เพาะพันธุ์ที่ดีจะคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ที่มีอุปนิสัยดี และมีการตรวจสุขภาพเพื่อให้แน่ใจว่าลูกสุนัขจะไม่ได้รับโรคทางพันธุกรรมติดตัวไปด้วย

ลักษณะเด่นของสุนัขคอลลี่

ฉลาด สุนัขคอลลี่เป็นสุนัขที่ฉลาดมาก สามารถฝึกได้ง่าย พวกน้องอยากทำให้เจ้าของพอใจและตอบสนองต่อการเสริมแรงในเชิงบวกได้ดี

ซื่อสัตย์ สุนัขคอลลี่เป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ จงรักภักดีต่อเจ้าของ น้องๆ จะดีใจทุกครั้งที่ได้เจอเจ้าของและเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณเลยทีเดียว

ขยันทำงาน สุนัขคอลลี่เป็นสุนัขที่ขยันมาก พร้อมที่จะทำให้เจ้าของพอใจเสมอ พวกน้องทำหน้าที่เลี้ยงปศุสัตว์ได้ดี และชอบกิจกรรมที่ต้องใช้ทั้งสมองและแรงกาย

กระฉับกระเฉง  สุนัขคอลลี่เป็นสุนัขที่ต้องการออกกำลังกายสูง ต้องมีการพาน้องไปเดินหรือให้น้องได้เล่นทุกวันเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีและมีความสุข

เข้ากับเด็กได้ดี สุนัขคอลลี่เข้ากับเด็กๆ ได้ดี ทำให้เป็นสุนัขที่เหมาะกับครอบครัวอย่างมาก พวกน้องอดทนและอ่อนโยนกับเด็กๆ ชอบที่จะได้เล่นกับเด็กด้วย

ต้องดูแลขนอย่างสม่ำเสมอ สุนัขคอลลี่มีขนที่ยาว หนา จึงจำเป็นต้องแปรงขนเป็นประจำ ให้แปรงขนอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และอาบน้ำเป็นครั้งคราวตามความเหมาะสม

สุขภาพโดยทั่วไปแข็งแรง สุนัขคอลลี่ส่วนใหญ่มีสุขภาพแข็งแรง แต่ก็อาจมีบางโรคที่มักจะเกิดขึ้นในสุนัขสายพันธุ์นี้ เช่น ข้อสะโพกเสื่อม ข้อศอกเสื่อม และความผิดปกติทางตาที่เรียกว่า Collie eye anomaly

ประวัติความเป็นมาของสุนัขคอลลี่

สุนัขคอลลี่มีถิ่นกำเนิดในประเทศสก็อตแลนด์ โดยเฉพาะในพื้นที่ไฮแลนด์ ชื่อ “Collie” อาจเพี้ยนมาจากคำว่า Collis, Colley, Coally, หรือ Coaly ซึ่งน่าจะมีรากศัพท์มาจากคำว่า col หรือ coll ในภาษาแองโกล-แซกซอน ที่แปลว่า สีดำ แต่บางนักประวัติศาสตร์ก็เชื่อว่าชื่อนี้น่าจะมาจากคำว่า colley ซึ่งเป็นชื่อของแกะสีดำหน้าขาวในสก็อตแลนด์ที่สุนัขคอลลี่เคยใช้เลี้ยง

สุนัขคอลลี่รุ่นแรกๆ มีรูปร่างและขนาดใกล้เคียงกับ Border Collies ในปัจจุบันมากกว่า และส่วนใหญ่มีสีดำเป็นหลัก ผู้เลี้ยงให้ความสำคัญกับความสามารถในการเลี้ยงแกะมากกว่าหน้าตาภายนอก รูปลักษณ์ของสุนัขพวกนี้จึงหลากหลายมากในยุคแรกๆ

อ่านต่อ

เชื่อกันว่าบรรพบุรุษของสุนัขคอลลี่ถูกนำเข้ามาในหมู่เกาะบริเตนโดยชนเผ่าที่ใช้ชีวิตเร่ร่อนในช่วงยุคหิน รวมถึงสุนัขที่แข็งแรง ฉลาด และถูกใช้เป็นสุนัขเลี้ยงแกะ วัว แพะ และหมู บางนักประวัติศาสตร์เชื่อว่าสุนัขบรรพบุรุษเหล่านี้ถูกนำเข้ามาในหมู่เกาะบริเตนโดยผู้พิชิตชาวโรมันเมื่อราว 2000 ปีก่อน

ควีนวิกตอเรียได้ช่วยทำให้สุนัขคอลลี่โด่งดัง ในปี 1860 พระองค์ได้เสด็จเยือนคฤหาสน์ของพระองค์ในสก็อตแลนด์ และทรงหลงใหลในความสวยงามและอุปนิสัยอ่อนโยนของสุนัขคอลลี่ที่ได้ทอดพระเนตรเห็น พระองค์จึงทรงนำสุนัขบางตัวกลับไปเลี้ยงในอังกฤษ และนับเป็นจุดเริ่มต้นของกระแสความนิยมสุนัขคอลลี่ สุนัขพันธุ์นี้ถูกนำไปจัดแสดงและเพาะพันธุ์โดยคำนึงถึงรูปลักษณ์ภายนอกมากกว่าความสามารถในการทำงาน การแสดงสุนัขครั้งแรกที่มีการนำสุนัขคอลลี่ไปแสดงคือในปี 1860 ที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ และถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “Scotch Sheep-Dogs” สุนัขคอลลี่ตัวหนึ่งชื่อ Old Cockie ซึ่งเกิดในปี 1867 ได้รับการยกย่องว่าเป็นต้นแบบของสุนัขคอลลี่สายพันธุ์ Rough ในปัจจุบัน รวมถึงเป็นตัวที่ทำให้เกิดสีน้ำตาลทองในสุนัขสายพันธุ์นี้ในเวลาต่อมา สุนัขคอลลี่ถูกนำเข้าไปอเมริกาเป็นครั้งแรกในปี 1879 ส่วนชมรมสุนัขคอลลี่แห่งอเมริกาก็ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 1886 นับเป็นหนึ่งในสมาคมสุนัขพันธุ์เฉพาะที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ

ขนาดของสุนัขคอลลี่

สุนัขคอลลี่เพศผู้จะมีความสูงประมาณ 61-66 เซนติเมตร ส่วนเพศเมียจะสูง 56-61 เซนติเมตร น้ำหนักของน้องๆ จะอยู่ที่ 22-32 กิโลกรัม

บุคลิกนิสัยของสุนัขคอลลี่

สุนัขคอลลี่ที่ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดีจะมีนิสัยน่ารัก เป็นมิตร อ่อนโยน เป็นสุนัขเลี้ยงของครอบครัว เพราะน้องชอบมีส่วนร่วมในกิจกรรมทุกอย่างในบ้าน น้องชอบเล่นกับเด็กๆ มากเป็นพิเศษ และพร้อมที่จะคอยปกป้องดูแลพวกเขาอยู่ตลอดเวลา

แม้จะมีนิสัยที่ดีเลิศขนาดนี้ นิสัยที่โดดเด่นสุดๆ ของสุนัขคอลลี่ก็คือความฉลาดและความจงรักภักดี น้องเป็นหมาฉลาด เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว และภักดีอย่างเหลือเชื่อ น้องพร้อมจะแหวกว่ายอยู่ในน้ำเต็มไปด้วยฉลามเพื่อช่วยเจ้าของเลยทีเดียว (เหมือนกับที่ Lassie ทำเพื่อ Timmy นั่นแหละ)

อ่านต่อ

อุปนิสัยของสุนัขได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย รวมถึงพันธุกรรม การฝึกอบรม และการขัดเกลาทางสังคม ลูกสุนัขที่มีนิสัยดีมักจะอยากรู้อยากเห็นและชอบเล่น ไม่กลัวคน ชอบการสัมผัส ให้เลือกน้องที่อยู่ตรงกลางระหว่างนิสัยแบบสุดโต่งสองขั้ว อย่าเลือกน้องที่กำลังรุมล้อมพี่น้องหรือกำลังซุกอยู่ตามมุมห้อง ควรพยายามเจอพ่อแม่ของน้อง โดยเฉพาะแม่ อย่างน้อยสักตัว เพื่อดูว่าพวกเขามีนิสัยที่เราพอใจหรือไม่ การได้เจอพี่น้องหรือญาติสนิทอื่นๆ ของน้องก็ช่วยในการประเมินได้ว่าน้องจะเป็นอย่างไรในอนาคต

เหมือนกับสุนัขทุกสายพันธุ์ สุนัขคอลลี่ต้องได้รับการฝึกขัดเกลาทางสังคมตั้งแต่ยังเล็ก คือการสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เจอคนใหม่ๆ ได้ยินเสียงแปลกๆ หลากหลาย รวมถึงได้ออกไปในสถานที่ต่างๆ นอกบ้านบ่อยๆ ซึ่งจะช่วยให้น้องเติบโตไปเป็นสุนัขสุขภาพจิตดี การเข้าคลาสฝึกอบรมเบื้องต้นก็นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี การมีแขกมาบ้านบ่อยๆ พาน้องไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ ร้านค้าที่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าได้ ตลอดจนเดินทอดน่องในย่านที่อยู่อาศัยเพื่อทักทายเพื่อนบ้าน ก็ช่วยพัฒนาทักษะการเข้าสังคมของน้องได้เป็นอย่างดี

บุคลิกภาพทั่วไปสุนัขคอลลี่

ข้อมูลทั่วไป

logo
การปรับตัว มาก
ความเป็นมิตรในทุกด้าน มากที่สุด
ความต้องการดูแลด้านสุขภาพและการเกลี่ยขน ปานกลาง
ความสามารถในการฝึก ปานกลาง
ความต้องการออกกำลังกาย ปานกลาง

 

โรคที่พบบ่อยของสุนัขคอลลี่

ชื่อโรค

sick cat sticker
Dermatomyositis โรคผิวหนังและกล้ามเนื้ออักเสบ
Collie Nose โรคจมูกของสุนัขคอลลี่
Collie Eye Anomaly ความผิดปกติของดวงตาในสุนัขคอลลี่
Progressive Retinal atrophy (PRA) ภาวะจอประสาทตาเสื่อมลง
Nodular Granulomatous Episclerokeratitis (NGE) โรคตาแบบปมเม็ดอักเสบ
Hip Dysplasia ภาวะข้อสะโพกเสื่อม
Allergies ภูมิแพ้
Drug Sensitivity การแพ้ยา
Spinal Bifida ภาวะกระดูกสันหลังแตกแยก

 

การดูแลสุขภาพสุนัขคอลลี่

โดยทั่วไปแล้ว สุนัขคอลลี่ถือเป็นสุนัขที่มีสุขภาพแข็งแรง แต่เหมือนสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ พวกน้องก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคบางอย่างได้ สุนัขคอลลี่ไม่จำเป็นต้องเป็นโรคเหล่านี้ทุกตัวหรอก แต่เจ้าของก็ควรจะรู้ไว้บ้างเผื่อใช้ประกอบการตัดสินใจเลี้ยง ถ้าคุณจะซื้อลูกหมา เลือกผู้เพาะพันธุ์ที่ดีซึ่งสามารถแสดงใบรับรองสุขภาพของพ่อแม่พันธุ์ได้ ใบรับรองพวกนี้แสดงให้เห็นว่าสุนัขได้รับการตรวจและไม่ได้เป็นโรคนั้นๆ ใบรับรองที่ผู้เพาะพันธุ์สุนัขคอลลี่ควรจะมี ได้แก่ ใบรับรองจาก OFA (Orthopedic Foundation for Animals) สำหรับโรคข้อสะโพกเสื่อม (คะแนนต้อง fair หรือดีกว่านั้น) ข้อศอกเสื่อม ต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ และ von Willebrand’s disease ใบรับรองจากมหาวิทยาลัยออเบิร์นสำหรับโรค thrombopathia และใบรับรองจาก CERF (Canine Eye Registry Foundation) ที่ระบุว่าตาปกติ คุณสามารถตรวจสอบใบรับรองสุขภาพได้จากเว็บไซต์ OFA (offa.org)

อ่านต่อ

โรคที่สุนัขคอลลี่มีความเสี่ยง ได้แก่

Dermatomyositis โรคผิวหนังและกล้ามเนื้ออักเสบ เป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรม ทำให้เกิดแผลและปัญหากล้ามเนื้อ มีการศึกษาที่ชี้ว่าสุนัขคอลลี่มากถึง 70% อาจเป็นพาหะของโรคนี้

Collie Nose หรือที่เรียกว่า nasal solar dermatitis เป็นโรคที่ผิวหนังบริเวณจมูกลอก มีน้ำเหลือง และอาจเปลี่ยนสี ถ้าปล่อยทิ้งไว้อาจปวดหรือกลายเป็นมะเร็งได้ การรักษาทำได้โดยจำกัดการสัมผัสแสงแดด ทาครีมกันแดด หรือสักสีดำบนจมูกสุนัขเพื่อป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต

Collie Eye Anomaly โรคนี้สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมและอาจนำไปสู่ตาบอด ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงและความผิดปกติของดวงตา เช่น choroidal hypoplasia (การพัฒนาของชั้น choroid หรือเยื่อหุ้มตาชั้นในที่ไม่สมบูรณ์) ตาโหว่ (coloboma) ที่ optic disc เยื่อหุ้มตาเสื่อม (staphyloma) และจอประสาทตาหลุดลอก (retinal detachment) โรคนี้มักจะเกิดขึ้นภายในช่วง 2 ปีแรกของสุนัข และไม่สามารถรักษาได้

Progressive Retinal atrophy (PRA) กลุ่มโรคตาที่ทำให้จอประสาทตาเสื่อมอย่างค่อยเป็นค่อยไป สุนัขที่เป็นโรคนี้จะมองไม่เห็นตอนกลางคืนก่อน เมื่อโรคลุกลาม ก็จะทำให้ตาบอดในเวลากลางวันด้วย แต่สุนัขหลายตัวก็สามารถปรับตัวกับการมองเห็นที่ลดลงหรือตาบอดได้ดี หากสภาพแวดล้อมยังคงเหมือนเดิม

Nodular Granulomatous Episclerokeratitis (NGE) หรือ nodular fasciitis, fibrous histiocytoma หรือ Collie granuloma โรคนี้เชื่อว่าเป็นความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ที่สุดท้ายแล้วจะทำให้กระจกตาเสียหาย สุนัขคอลลี่ที่เป็น Collie nose ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็น NGE ด้วย การรักษาอาจต้องใช้ยาแก้อักเสบหรือกดภูมิคุ้มกัน

ข้อสะโพกเสื่อม เป็นความผิดปกติของเบ้าข้อสะโพกที่อาจทำให้เจ็บและเดินกะเผลก ไม่ควรนำสุนัขที่เป็นโรคนี้ไปผสมพันธุ์ ถ้าจะซื้อลูกสุนัข ให้ขอดูหลักฐานจากผู้ขายว่าพ่อแม่ของลูกสุนัขได้รับการตรวจและไม่มีปัญหาเรื่องข้อสะโพก

ภูมิแพ้: สุนัขจำนวนมากมีภูมิแพ้ ซึ่งมีอยู่ 3 ประเภทหลักๆ คือ ภูมิแพ้อาหาร ซึ่งรักษาด้วยการตัดอาหารบางอย่างออกจากชีวิตประจำวัน ภูมิแพ้สัมผัส ซึ่งเกิดจากการสัมผัสกับสารบางอย่าง เช่น เบาะนอน ยาฆ่าเห็บ แชมพูสุนัข และสารเคมีอื่นๆ และภูมิแพ้สิ่งแวดล้อม เกิดจากสารก่อภูมิแพ้ที่ลอยอยู่ในอากาศ เช่น ละอองเกสร ฝุ่น และเชื้อรา การรักษาจะแตกต่างกันไปตามสาเหตุ อาจรวมถึงการควบคุมอาหาร ให้ยา และปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม

ความไวต่อยา สุนัขคอลลี่อาจมีการตอบสนองต่อยาบางอย่าง เช่น ยารักษาพยาธิหนอนหัวใจ ยาสลบ และยาฆ่าแมลง ปรึกษากับสัตวแพทย์ก่อนจะให้ยาใดๆ แก่สุนัขคอลลี่ของคุณ รวมถึงก่อนใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บหมัดด้วย

Spinal Bifida เป็นความพิการแต่กำเนิดของสุนัข เมื่อกระดูกสันหลัง (กระดูกสันหลัง) ไม่ได้ปิดครอบไขสันหลังอย่างสมบูรณ์ ปล่อยให้ไขสันหลังไม่มีที่ปกป้องหรือเสียหาย ทำให้เกิดพิการทางประสาทที่ขาและมีอาการต่างๆ เช่น การอุจจาระ/ปัสสาวะไม่อยู่

การดูแลสุนัขคอลลี่

สุนัขคอลลี่สามารถอาศัยอยู่ได้อย่างสบายใจทั้งในเมืองและชนบท ขอเพียงแค่ต้องมีการออกกำลังกายที่เพียงพอ การพาน้องไปเดินเร็วๆ ทุกวันและเล่นในสนามหญ้าก็ถือว่าเพียงพอแล้ว ที่สำคัญที่สุดคือน้องอยากอยู่กับครอบครัว กล่าวคือไม่เหมาะกับการปล่อยทิ้งไว้ข้างนอกคนเดียว ถ้าปล่อยให้น้องอยู่ตามลำพังนานเกินไป ก็อาจจะเห่าไม่หยุด แม้ว่าการเห่าจะเป็นเรื่องปกติของสุนัขสายพันธุ์นี้ก็ตาม ในอดีตน้องเห่าเพื่อเตือนคนเลี้ยงแกะว่ามีหมาป่า แต่ถ้าน้องเบื่อ เหงา หรือไม่พอใจ ก็จะเห่าไม่ยอมหยุดเช่นกัน

ปัญหาเรื่องการเห่ามากเกินไปสามารถแก้ไขได้ด้วยการให้สุนัขคอลลี่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทุกอย่างของครอบครัว และท้าทายสมองด้วยการฝึกและเล่นกีฬาสุนัขต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ การฝึกสุนัขคอลลี่นั้นทำได้ง่ายมาก แต่เหมือนกับสุนัขทุกสายพันธุ์ น้องต้องผ่านการขัดเกลาทางสังคมตั้งแต่ยังเล็กเพื่อป้องกันนิสัยขี้อาย น้องยังได้ประโยชน์จากการเข้ารับการฝึกเชื่อฟังด้วย ซึ่งควรจะมีการสอนคำสั่ง “เงียบ” ให้น้องฟังด้วย

การให้อาหารสุนัขคอลลี่

ปริมาณอาหารที่แนะนำต่อวัน: อาหารเม็ดคุณภาพดีวันละ 2-3 ถ้วยตวง แบ่งให้กินเป็น 2 มื้อ

สุนัขโตแต่ละตัวจะกินอาหารปริมาณไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับขนาด อายุ โครงสร้าง ระบบเผาผลาญ และระดับการออกกำลังกาย เหมือนมนุษย์เรานั่นแหละ สุนัขแต่ละตัวมีความต้องการอาหารไม่เท่ากัน แน่นอนว่าสุนัขที่ออกกำลังกายเยอะจะต้องกินอาหารมากกว่าสุนัขที่นอนอยู่บ้านทั้งวัน คุณภาพอาหารก็ส่งผลต่อสุขภาพและปริมาณที่จำเป็นต้องกินด้วย ยิ่งอาหารคุณภาพดี ก็ยิ่งให้สารอาหารกับสุนัขได้มาก กินแล้วอิ่มนาน จึงกินได้น้อยลง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลี้ยงสุนัขคอลลี่ โปรดอ่านคำแนะนำของเราในการเลือกอาหารที่เหมาะสม การให้อาหารลูกสุนัข และการให้อาหารสุนัขโต

ขนสีและการดูแลขนของสุนัขคอลลี่

สุนัขคอลลี่มี 2 ประเภทของขน คือ ขนยาว (Rough) และขนสั้น (Smooth) สุนัขคอลลี่ Rough จะมีขนชั้นนอกยาว เยอะ ตรง สัมผัสแล้วหยาบ และมีขนชั้นในที่นุ่มฟูจนมองไม่เห็นผิวหนังเลยเมื่อแหวกขน ส่วนสุนัขคอลลี่ Smooth จะมีขนสั้น แน่น และเรียบ พร้อมชั้นขนใต้ที่หนา ทั้งสองประเภทจะมีการหลุดร่วงของขนปานกลาง สีขนของสุนัขคอลลี่มี 4 สี ได้แก่ น้ำตาลทอง (คิดถึง Lassie), สามสี (ดำ+ขาว+เฉดสีน้ำตาล), blue merle (สีเทาเงิน+ดำ) และขาว (ขาวเป็นสีหลัก+มีลายอื่นๆ แซม) โดยส่วนใหญ่แล้วสุนัขคอลลี่จะไม่ค่อยมีกลิ่นตัวนะ เป็นสุนัขที่ค่อนข้างสะอาด

การแปรงขนสุนัขคอลลี่ที่จำเป็นจะขึ้นอยู่กับประเภทของขน สำหรับสายพันธุ์ Rough ต้องแปรงขนอย่างทั่วถึงอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง (หากต้องการให้ดูเหมือน Lassie ต้องแปรงบ่อยกว่านี้) ส่วนสายพันธุ์ Smooth สัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอ อาบน้ำเมื่อจำเป็น ซึ่งก็ประมาณทุก 6-8 สัปดาห์ เจ้าของสุนัขคอลลี่หลายคนเลือกที่จะจ้างช่างตัดขนมืออาชีพเพื่อแปรงขนและอาบน้ำ

 

 

ให้น้อง โดยเฉพาะสายพันธุ์ Rough เพราะขนหนามาก เจ้าของมือใหม่อาจรู้สึกว่าการแปรงขนเป็นเรื่องท้าทาย แต่ก็ทำได้ง่ายขึ้นด้วยการฝึกฝนและขอคำแนะนำจากผู้เพาะพันธุ์สุนัขคอลลี่หรือช่างตัดขนที่มีฝีมือ

ตัดเล็บให้น้องเดือนละครั้ง และตรวจหูทุกสัปดาห์เผื่อมีสิ่งสกปรก ความแดง หรือกลิ่นเหม็นที่บ่งบอกถึงการติดเชื้อ ใช้สำลีชุบน้ำยาทำความสะอาดหูที่มีค่า pH สมดุลเช็ดหูทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ แปรงฟันน้องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งเพื่อขจัดคราบหินปูนและแบคทีเรีย

ยิ่งแปรงฟันบ่อยเท่าไร ก็ยิ่งป้องกันโรคเหงือกและกลิ่นปากได้ดีเท่านั้น ฝึกให้น้องคุ้นเคยกับการแปรงขนและการตรวจร่างกายตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข โดยเฉพาะการจับเท้าบ่อยๆ เนื่องจากสุนัขมักจะไวต่อการสัมผัสบริเวณนั้น ลองเปิดปากน้องดูด้วย ทำให้การดูแลเป็นประสบการณ์ในแง่บวกที่เต็มไปด้วยคำชม และให้รางวัลน้องเสมอ เพื่อวางรากฐานให้น้องยอมให้สัตวแพทย์ตรวจและจับตัวได้ง่ายเมื่อโตขึ้น

ระหว่างที่แปรงขน ตรวจดูแผล ผื่น หรืออาการของการติดเชื้อต่างๆ ไปด้วย เช่น ผิวหนังแดง บวม หรืออักเสบ ที่จมูก ปาก ตา และเท้า ตาควรใส ไม่แดง ไม่มีขี้ตา การตรวจร่างกายน้องอย่างละเอียดทุกสัปดาห์จะช่วยให้คุณสังเกตปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เนิ่นๆ

สุนัขคอลลี่กับเด็กและสัตว์อื่นๆ

สุนัขคอลลี่เป็นที่รู้กันดีว่ารักเด็ก แม้จะเป็นเด็กที่ไม่คุ้นเคยก็ตาม น้องจะคอยปกป้องเด็กๆ ในครอบควรเป็นอย่างดี ดูแลและเฝ้าระวังอันตรายใดๆ ที่อาจเกิดกับหนูน้อย เหมือนกับที่ Lassie เคยทำเพื่อ Timmy เลย แต่เหมือนกับสุนัขทุกสายพันธุ์ คุณต้องสอนเด็กๆ ให้รู้ว่าควรเข้าหาและสัมผัสสุนัขอย่างไร และต้องคอยดูแลขณะที่เด็กเล่นกับสุนัขตลอดเวลา เพื่อป้องกันการถูกสุนัขกัดหรือถูกเด็กดึงหู ดึงหาง สอนลูกๆ ว่าห้ามเข้าใกล้สุนัขขณะที่มันกำลังกินอาหารหรือหลับ หรือพยายามแย่งอาหารจากปากสุนัข ไม่ว่าสุนัขจะเป็นมิตรแค่ไหน ก็ไม่ควรปล่อยให้อยู่กับเด็กตามลำพังโดยไม่มีผู้ใหญ่คอยดูแลเป็นอันขาด

สุนัขคอลลี่ก็เป็นมิตรและอ่อนโยนกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ในครอบครัวเช่นกัน น้องเป็นผู้ดูแลที่อ่อนโยนและอ่อนหวาน พร้อมจะดูแลลูกกระต่าย ลูกไก่ หรือลูกแพะ

บทสรุปสุนัขคอลลี่

สุนัขคอลลี่เป็นสุนัขฉลาด ซื่อสัตย์ เป็นมิตร และเต็มไปด้วยพลัง ซึ่งทำให้เป็นสัตว์เลี้ยงที่ยอดเยี่ยมสำหรับครอบครัว น้องสามารถเข้ากับเด็กและสัตว์อื่นๆ ได้ดี แต่ก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมต่างๆ ในบ้านได้ดี โดยเฉพาะหากได้รับการออกกำลังกายและกิจกรรมที่ท้าทายอย่างเพียงพอ

น้องชอบการทำงานเป็นที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเด็กๆ ต้อนสัตว์ หรือร่วมในกิจกรรมกีฬาสำหรับสุนัข ถ้าคุณต้องการสุนัขที่น่ารัก สติปัญญาดี ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งเพื่อนร่วมเล่นที่ดีที่สุดและผู้ปกป้องที่จงรักภักดีที่สุด สุนัขคอลลี่คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคุณ

น้องหมาอยากบอก

เจ้านายที่รักจ๋า อย่าลืมซื้ออาหารอร่อยๆ ให้หนูนะ น้องหิวแล้ว แล้วอย่าลืมของเล่นสนุกๆที่น้องชอบด้วยล่ะ และขอขนมแสนอร่อยที่หนูชื่นชอบด้วยนะโฮ่ง มันช่วยให้มีความสุขและพลังงานเต็มเปี่ยม อ้อ…อย่าลืมถุงเก็บอึสะอาดๆ ด้วยล่ะ ช่วยให้น้องขับถ่ายถูกที่ เจ้าของก็สบายใจ หนูรอของดีๆ จากเจ้านายอยู่นะ ปล.ถ้าไม่มีของพวกนี้ให้ หนูจะงอนเอานะ แต่เอ…จำไม่ได้ว่าบ้านเราใช้ยี่ห้อไหน เจ้านายที่รักลองกดเช็คของเลยนะครับ โบ๊ะ โบ๊ะ

รอยัลคานิน Royal Canin    โรยัล คานิน (Royal Canin) shoppee button lazada button
คานิวา Kaniva    คานิว่า (Kaniva) shoppee button lazada button
วิสกัส Whiskas    วิสกัส (Whiskas) shoppee button lazada button
ทิฟฟานี่ Tiffany    ทิฟฟานี่ (Tiffany) shoppee button lazada button
มีโอ Me-O    มีโอ (Me-O) shoppee button lazada button
เพียวริน่าวัน Purina ONE    เพียวริน่า วัน (Purina ONE) shoppee button lazada button
 ฮิลส์ Hill’s    ฮิลส์ (Hill’s) shoppee button lazada button
เน็กโกะ คิทเท่น Nekko Kitten    เน็กโกะ คิทเท่น (Nekko Kitten) shoppee button lazada button
ออริเจ็น Orijen    ออริเจ็น (Orijen) shoppee button lazada button
แม็กซิม่า Maxima    แม็กซิม่า (Maxima) shoppee button lazada button

Dog Breed Banner

Reference: แหล่งที่มา