โภชนาการแมวตั้งท้อง อาหารที่จำเป็นสำหรับแม่แมว

เมื่อน้องแมวตั้งท้อง ชีวิตเล็กๆ ในท้องกำลังเติบโตเรื่องอาหารสำคัญกว่าที่คิด

เห็นน้องแมวตัวโปรดเริ่มท้องโตขึ้นทุกวัน แน่นอนว่าความห่วงใยก็ตามมาเป็นเงาตามตัวใช่ไหม แม่แมวตั้งท้องไม่ใช่แค่ต้องการอาหารมากขึ้น แต่ต้องได้สารอาหารที่ “พอดีและพอเหมาะ” เพื่อลูกน้อยในท้องจะได้แข็งแรง และตัวแม่เองก็พร้อมฟื้นตัวหลังคลอด วันนี้เราจะมาแชร์ทุกเรื่องที่เพื่อนๆ ต้องรู้ เกี่ยวกับโภชนาการดีๆ สำหรับน้องแมวตั้งท้องกัน

อาหารแบบไหน ที่แม่แมวตั้งท้องต้องการจริงๆ

ช่วงตั้งท้อง vs ปกติ แตกต่างกันอย่างไร

แม่แมวตั้งท้องต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น 25-50% โดยเฉพาะช่วง 4 สัปดาห์ก่อนคลอด แต่ไม่ได้หมายความว่าให้กินเยอะขึ้นเฉยๆ สิ่งที่ต้องเน้นคือ
– โปรตีนสูงคุณภาพ เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา ช่วยสร้างกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อของลูกแมว
– แคลเซียมและฟอสฟอรัส สำคัญสำหรับพัฒนากระดูกและฟันของทารกแมว
– ไขมันดี (เช่น Omega-3 จากปลาทู) ช่วยพัฒนาสมองและระบบประสาท

อาหารที่ควรให้เป็นพิเศษ แบ่งตามช่วงอายุครรภ์

1. ช่วงแรก (1-3 สัปดาห์)

• ให้อาหารแมวทั่วไปแต่เพิ่มปริมาณเล็กน้อย
• เสริมวิตามินบีรวมเพื่อลดอาการคลื่นไส้

2. ช่วงกลาง (4-6 สัปดาห์)

• เปลี่ยนเป็นอาหารสูตรแมวตั้งท้องหรือลูกแมว (มีโปรตีน 30%+)
• เพิ่มมื้ออาหารจาก 2 เป็น 3-4 มื้อ/วัน แบบทีละน้อย

3. ช่วงใกล้คลอด (สัปดาห์ที่ 7 เป็นต้นไป)

• ต้องได้พลังงานเต็มที่ อาจให้อาหารเปียกเสริมเพื่อย่อยง่าย
• ห้ามขาด “ทอรีน” สารสำคัญที่ป้องกันโรคหัวใจในลูกแมว

สิ่งที่ห้ามให้เด็ดขาด

• นมวัว (แมวย่อยไม่ได้ เสี่ยงท้องเสีย)
• อาหารสุนัข (ขาดทอรีนและโปรตีนไม่พอ)
• อาหารดิบหรือกระดูก (เสี่ยงติดเชื้อ)

ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญถ้าคุณรักน้องแมวจริงๆ

เพราะโภชนาการที่ดีคือจุดเริ่มต้นของชีวิตเล็กๆ ที่แข็งแรง แม่แมวที่ได้รับอาหารครบถ้วนจะ
✅ ลูกแมวแรกคลอดมีน้ำหนักปกติ ไม่ผอมเกินไป
✅ แม่แมวมีแรงคลอด ลดภาวะแทรกซ้อนเช่น คลอดยาก
✅ น้ำนมมีคุณภาพ ลูกแมวดูดนมแล้วเจริญเติบโตเร็ว

และที่สำคัญมันคือวิธีที่คุณแสดงความรักอย่างเป็นรูปธรรมที่สุด การลงทุนกับอาหารดีๆ วันนี้ คือการประหยัดค่ารักษาพยาบาลในอนาคต

เริ่มดูแลแม่แมวตั้งท้องตั้งแต่ตอนนี้เลยดีกว่า

อย่ารอให้น้องแมวอ่อนเพลียหรือลูกแมวเกิดมาผอมเกร็ง ลองทำตามนี้กันเลย
1. สำรวจอาหาร ที่ให้อยู่ว่ามีโปรตีนสูงพอหรือยัง ถ้ายัง ไปหาซื้อสูตรสำหรับแมวตั้งท้องหรือลูกแมวได้เลย
2. จัดตารางอาหาร ให้เป็นเวลา แบ่งเล็กแต่บ่อยครั้ง เพื่อป้องกันท้องอืด
3. สังเกตอาการ หากน้องแมวกินน้อยหรืออาเจียนบ่อย ปรึกษาสัตวแพทย์ด่วน

และถ้าคุณยังสงสัยหรืออยากได้สูตรอาหารทำเองสำหรับแม่แมว แวะมาคุยกันได้ที่คอมเมนต์นะ เรายินดีช่วยเต็มที่ ) เพราะเราก็รักแมวเหมือนกัน

 

 

ArticleID: 2409