แมวอ้วนอันตราย วิธีควบคุมน้ำหนักด้วยอาหารที่เหมาะสม

รู้ไหม น้องแมวอ้วนเกินไปอาจเสี่ยงโรคมากกว่าที่คิด

เห็นน้องแมวตัวกลมๆ นุ่มๆ เหมือนตุ๊กตาน่าหยิก น่าฟัดใช่ไหม แต่รู้ไหมว่าความอ้วนของเจ้าเหมียวไม่ใช่เรื่องน่ารักเสมอไป แมวอ้วนเกินไปอาจนำพาโรคร้ายมากมายที่เพื่อนๆ คาดไม่ถึง ทั้งเบาหวาน โรคข้อ ไปจนถึงปัญหาหัวใจ แล้วเราจะช่วยน้องแมวให้กลับมามีสุขภาพดีได้ยังไง มาหาคำตอบด้วยกัน

ทำไมแมวอ้วนถึงอันตราย และจะควบคุมน้ำหนักด้วยอาหารอย่างไร

1. ภัยร้ายจากความอ้วนในแมว

• โรคข้อเสื่อม น้ำหนักตัวมากกดทับข้อต่อ ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก
• เบาหวาน ไขมันสะสมทำให้ระบบเผาผลาญรวน ควบคุมน้ำตาลยาก
• โรคหัวใจและความดัน หัวใจทำงานหนักขึ้นเพราะต้องสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายส่วนเกิน
• ตับอักเสบจากไขมัน (Hepatic Lipidosis) ภาวะอันตรายที่พบได้บ่อยในแมวอ้วน

2. วิธีเช็กว่าแมวอ้วนหรือยัง

ลองสังเกตง่ายๆ ด้วยตัวเอง
– มองจากด้านบน เอวควรคอดเล็กน้อย หากตรงเป๊ะเหมือน “ท่อนไม้อบ” แสดงว่าอ้วน
– คลำซี่โครง ควรรู้สึกถึงซี่โครงเมื่อลูบเบาๆ ถ้าต้องกดแรงถึงจะเจอ แปลว่ามีไขมันสะสม
– พุงย้อย หากห้อยระย้าคล้ายกระเป๋า อาจเข้าขั้นอ้วนแล้ว

3. เลือกอาหารอย่างไรให้แมวลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย

3.1 อาหารแมวสูตรควบคุมน้ำหนัก

• เลือกสูตร High-Protein, Low-Carb เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อและลดไขมัน
• ระวัง แคลอรี่เกิน ควรให้พลังงานประมาณ 20-30 แคลอรี่/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน
• ตัวอย่างแบรนด์แนะนำ Royal Canin Weight Care, Hill’s Science Diet Perfect Weight

3.2 ปริมาณที่เหมาะสม

• แบ่งมื้อเล็กๆ วันละ 3-4 ครั้ง ดีกว่าปล่อยให้กินอิ่มเต็มมื้อ
• ใช้ถ้วยตวงหรือตาชั่งอาหาร เพื่อความแม่นยำ (อย่าเดา)

3.3 ของว่างต้องเลือกดี

• เลี่ยงขนมไขมันสูง หันมาให้ ผักต้มสุก เช่น แครอท ฟักทอง หรือ เนื้อไก่ต้มไม่ติดมัน แทน
• จำกัดขนมไม่เกิน 10% ของแคลอรี่ต่อวัน

3.4 ออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย

• เล่นของเล่นแบบมีปฏิสัมพันธ์ เช่น ไม้ขนนก เลเซอร์พอยน์เตอร์
• กระตุ้นให้เดินวันละ 15-30 นาที

ทำไมการควบคุมน้ำหนักแมวจึงสำคัญ

เพราะสุขภาพที่ดีของน้องแมว = อายุยืนยาว + คุณภาพชีวิตดีขึ้น แค่ปรับอาหารและไลฟ์สไตล์นิดหน่อย เจ้าเหมียวก็จะกลับมาวิ่งเล่นได้เหมือนเดิม ไม่ต้องทนทุกข์กับโรคภัยอีกต่อไป แถมยังช่วยประหยัดค่ารักษาพยาบาลได้มากเลยนะ

มาเริ่มช่วยน้องแมวลดน้ำหนักกันเลยดีกว่า

อย่ารอให้สายเกินไปนะ วันนี้เลย
1. ชั่งน้ำหนักน้องแมว แล้วคำนวณแคลอรี่ที่ควรได้รับ
2. เปลี่ยนอาหารเป็นสูตรควบคุมน้ำหนัก ค่อยๆ ปรับเพื่อไม่ให้เครียด
3. ตั้งเป้าหมายลดสัปดาห์ละ 1-2% จากน้ำหนักตัว ค่อยเป็นค่อยไป
4. ชวนเล่นทุกวัน แค่ 10 นาทีก็ดีต่อใจน้องแล้ว

ถ้าทำตามนี้ ภายใน 2-3 เดือน เพื่อนๆ จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน ถ้ายังไม่มั่นใจว่าจะเริ่มยังไง ลองปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อวางแผนแบบเฉพาะตัวก็ได้นะ

สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่า ความรักที่แท้จริงคือการดูแลสุขภาพน้องแมวให้ดีที่สุด ไม่ใช่การตามใจจนเกินไปนะคะ

 

 

ArticleID: 1367