โรคที่พบบ่อยในแมวไทยและแนวทางการรักษา

แมวไทยเป็นแมวพื้นเมืองที่มีความน่ารักและเป็นที่นิยมเลี้ยงในประเทศไทย ด้วยความสวยงามและนิสัยที่เป็นมิตร ทำให้หลายคนเลือกเลี้ยงแมวไทยเป็นสมาชิกในครอบครัว อย่างไรก็ตาม แมวไทยก็มีโรคที่พบบ่อยซึ่งเจ้าของควรรู้จักและเข้าใจ เพื่อให้สามารถดูแลสุขภาพของแมวได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที แอดแบรี่จะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับโรคที่พบบ่อยในแมวไทย พร้อมแนวทางการรักษาเพื่อให้แมวมีสุขภาพที่ดี

 

1. โรคทางเดินหายใจ (Upper Respiratory Infection)

โรคทางเดินหายใจเป็นโรคที่พบบ่อยในแมวไทย โดยเฉพาะแมวที่อยู่ในพื้นที่แออัดหรือเลี้ยงรวมกันหลายตัว โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย เช่น ไวรัสเฮอร์ปีส์ (Feline Herpesvirus) และไวรัสคาลิซิ (Feline Calicivirus) ซึ่งมีอาการคล้ายหวัดในคน

อาการที่พบ

• จามบ่อย
• มีน้ำมูกหรือน้ำตาไหล
• เบื่ออาหาร
• อ่อนเพลีย

แนวทางการรักษา

• การดูแลเบื้องต้น ทำความสะอาดดวงตาและจมูกด้วยน้ำเกลือ ให้น้ำและอาหารที่ย่อยง่าย
• การใช้ยา หากอาการรุนแรง อาจต้องให้ยาปฏิชีวนะหรือยาต้านไวรัสตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
• ป้องกันการแพร่กระจาย แยกแมวป่วยออกจากแมวตัวอื่น และทำความสะอาดพื้นที่เลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ

2. โรคผิวหนังและขนร่วง

แมวไทยมักมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังและขนร่วง ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อรา ไรขน หรือแมลงกัดต่อย รวมถึงการแพ้อาหารหรือสิ่งแวดล้อม

อาการที่พบ

• คันและเกาบ่อย
• ผิวหนังแดงหรือมีสะเก็ด
• ขนร่วงเป็นหย่อมๆ
• มีกลิ่นไม่พึงประสงค์

แนวทางการรักษา

• การวินิจฉัย พบสัตวแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่ชัดเจน เช่น การขูดผิวหนังหรือทดสอบการแพ้
• การใช้ยา หากเกิดจากเชื้อรา อาจต้องใช้ยาทาหรือยารับประทานตามคำสั่งแพทย์
• การดูแลผิวหนัง อาบน้ำด้วยแชมพูสูตรอ่อนโยน และให้อาหารที่มีสารอาหารบำรุงผิวหนัง

3. โรคทางเดินปัสสาวะ (Feline Lower Urinary Tract Disease – FLUTD)

โรคทางเดินปัสสาวะเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในแมวไทย โดยเฉพาะแมวที่กินน้ำน้อยหรือมีน้ำหนักเกิน อาการนี้เกิดจากหลายปัจจัย เช่น อาหาร การติดเชื้อ หรือนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ

อาการที่พบ

• ปัสสาวะลำบากหรือปัสสาวะไม่ออก
• ปัสสาวะเป็นเลือด
• เลียบริเวณอวัยวะเพศบ่อย
• ซึมและเบื่ออาหาร

แนวทางการรักษา

• การปรับอาหาร เปลี่ยนเป็นอาหารสูตรเฉพาะสำหรับแมวที่มีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ และกระตุ้นให้แมวดื่มน้ำมากขึ้น
• การรักษาทางการแพทย์ หากมีนิ่วหรือการติดเชื้อ ต้องรักษาด้วยการใช้ยาหรือการผ่าตัด
• ป้องกัน ทำความสะอาดกระบะทรายและจัดสภาพแวดล้อมที่สะอาด

4. โรคพยาธิในทางเดินอาหาร

แมวไทยที่เลี้ยงปล่อยหรือกินอาหารดิบอาจเสี่ยงต่อการติดพยาธิในทางเดินอาหาร เช่น พยาธิตัวกลม พยาธิตัวแบน หรือพยาธิปากขอ ซึ่งส่งผลต่อระบบย่อยอาหารและสุขภาพโดยรวม

อาการที่พบ

• ท้องเสียหรือถ่ายเป็นมูกเลือด
• อาเจียน
• ผอมลงผิดปกติ
• ท้องอืด

แนวทางการรักษา

• การถ่ายพยาธิ ให้ยาถ่ายพยาธิตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
• การป้องกัน หลีกเลี่ยงการให้แมวกินอาหารดิบ และทำความสะอาดพื้นที่เลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ

5. โรคอ้วน

แมวไทยที่เลี้ยงในบ้านและไม่ค่อยได้ออกกำลังกายมีแนวโน้มเป็นโรคอ้วน ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น เบาหวาน โรคข้อ หรือโรคหัวใจ

อาการที่พบ

• น้ำหนักเกินมาตรฐาน
• เคลื่อนไหวช้า
• หายใจลำบาก
• เบื่ออาหารหรือกินมากเกินไป

แนวทางการรักษา

• การปรับอาหาร เลือกอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำและมีไฟเบอร์สูง
• การออกกำลังกาย กระตุ้นให้แมวเล่นและเคลื่อนไหว เช่น การใช้ของเล่นหรือล่อให้วิ่งเล่น
• ติดตามน้ำหนัก ชั่งน้ำหนักแมวเป็นประจำและปรับแผนการดูแลตามคำแนะนำของสัตวแพทย์

6. โรคติดเชื้อไวรัสลิวคีเมีย (Feline Leukemia Virus – FeLV)

โรคนี้เป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่พบได้ในแมวไทย เกิดจากไวรัสที่ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้แมวอ่อนแอและเสี่ยงต่อการติดเชื้ออื่นๆ

อาการที่พบ

• ซึมและอ่อนเพลีย
• น้ำหนักลด
• มีแผลหรือการติดเชื้อบ่อย
• ต่อมน้ำเหลืองโต

แนวทางการรักษา

• การตรวจวินิจฉัย ตรวจเลือดเพื่อยืนยันการติดเชื้อ
• การดูแลประคับประคอง ให้อาหารที่มีคุณภาพสูงและเสริมภูมิคุ้มกัน
• ป้องกันการแพร่กระจาย ฉีดวัคซีนและแยกแมวป่วยออกจากแมวตัวอื่น

การดูแลสุขภาพแมวไทยให้แข็งแรงนั้น ต้องเริ่มจากการสังเกตอาการผิดปกติและพาไปพบสัตวแพทย์เมื่อมีปัญหา การป้องกันโรคด้วยการให้วัคซีน ทำความสะอาดพื้นที่เลี้ยง และให้อาหารที่มีคุณภาพก็เป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของควรใส่ใจ การดูแลแมวไทยอย่างถูกต้องจะช่วยให้แมวมีชีวิตยืนยาวและมีความสุขร่วมกับครอบครัวได้อย่างแน่นอน

 

 

ArticleID: 868