สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อก Australian Cattle Dog
สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อก Australian Cattle Dog หรือที่รู้จักในชื่อ บลูฮีลเลอร์ หรือ เรดฮีลเลอร์ ขึ้นอยู่กับสีขนของน้อง เป็นสุนัขที่ฉลาดมาก กระฉับกระเฉง และแข็งแรงสมบูรณ์ น้องวิ่งได้เร็วมากๆ จริงๆ สุนัขพันธุ์นี้ถูกพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นโดยชาวออสเตรเลียเพื่อให้คอยควบคุมฝูงวัวในฟาร์มขนาดใหญ่ และยังคงใช้เป็นสุนัขต้อนฝูงจนถึงทุกวันนี้
น้องสุนัขพันธุ์นี้ต้องการงานและกิจกรรมกับครอบครัวตลอดเวลา น้องซื่อสัตย์และคอยปกป้องครอบครัว แต่อาจไม่ค่อยไว้ใจคนแปลกหน้า นอกจากงานต้อนฝูงแล้ว น้องเหมาะกับกีฬาสุนัขหลายชนิด ทั้ง อากิลิตี้ การเชื่อฟัง แรลลี่ ฟลายบอล และการแข่งขัน flying disc นะ ผู้เลี้ยงมือใหม่และคนที่อาศัยในอพาร์ทเมนต์ควรระวัง เพราะน้องต้องการออกกำลังกายทั้งร่างกายและสมองเยอะมากเพื่อให้มีความสุข สุขภาพดี และป้องกันพฤติกรรมซน หากคุณมีบ้านพร้อมสนามวิ่งเล่นกว้างๆ และตามให้ทันความคล่องแคล่วของน้อง สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกอาจเหมาะกับคุณนะ
บทความนี้ แอดแบรี่จะพาเพื่อนๆไปสู่โลกของน้องแคทเทลด็อก นะคะทั้งอาหารการกิน การเลี้ยงดูน้องๆให้แข็งแรง การรักษาน้องยามเจ็บป่วย อย่างครบถ้วนสมบูรณ์เลยค่ะ
 |
 |
 |
 |
 |
 |
ข้อมูลทั่วไปสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อก
ภาพรวมของสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อก
คุณอาจรู้จักสุนัขพันธุ์นี้ในชื่ออื่นๆ เช่น ออสเตรเลียนฮีลเลอร์ บลูฮีลเลอร์ ควีนส์แลนด์ฮีลเลอร์ หรือ ฮอลส์ฮีลเลอร์ อย่างไรก็ตาม ชื่อทางการคือ สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อก คำว่า “ฮีลเลอร์” นั้นมาจากการที่พวกมันถูกเพาะพันธุ์ขึ้นมาเพื่อต้อนฝูงโคโดยการกัดส้นเท้าของวัว
บลูฮีลเลอร์เป็นสุนัขทำงานที่มีพลังงานสูง น้องไม่เหมาะกับการนอนอยู่บ้านเฉยๆ ขอย้ำว่าไม่เหมาะเลย น้องต้องการทำกิจกรรมและเคลื่อนไหวร่างกายตลอดเวลา พลังงานของน้องต้องมีทางระบาย ไม่งั้นน้องจะเบื่อและหาทางสนุกด้วยตัวเอง ซึ่งมักจะเป็นสิ่งที่คุณไม่ชอบ เช่น ขุดขยะ หรือขุดสวนดอกไม้
สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกมีความผูกพันกับเจ้าของและครอบครัวเป็นอย่างมาก น้องมักจะติดใครสักคนเป็นพิเศษ และอาจผูกพันกับคนอื่นน้อยกว่า บางครั้งน้องถูกเรียกว่า “สุนัขเวลโคร” เพราะน้องชอบอยู่ใกล้ๆคนที่น้องรักตลอดเวลา
เนื่องจากสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกถูกเพาะพันธุ์มาเพื่อต้อนฝูง และใช้ปากกัดเพื่อควบคุมฝูง น้องจึงมักใช้ปากในการสื่อสารอยู่เสมอ สัญชาตญาณของน้องคือการกัดวัว เด็กๆ สัตว์เลี้ยงอื่น รถยนต์ หรืออะไรก็ตามที่เคลื่อนไหว น้องมีแนวโน้มจะกัดแม้ในตอนเล่น สัญชาตญาณนี้ต้องมีการชี้นำที่ถูกต้องผ่านการขัดเกลาและการฝึกฝนเมื่อน้องยังเป็นลูกสุนัข ไม่อย่างนั้นน้องอาจแสดงพฤติกรรมที่อันตรายได้
อีกส่วนหนึ่งของสัญชาตญาณที่ถูกพัฒนาขึ้นคือสัญชาตญาณนักล่าที่แรงกล้า น้องจะมัวแต่ตามล่ากระรอก แมว และสัตว์ตัวเล็กอื่นๆ หากสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกเติบโตมาพร้อมกับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นในบ้าน ทั้งแมว น้องสามารถอยู่ร่วมกับพวกมันได้อย่างสงบ แต่สัตว์นอกบ้านนั้น ระวังเอาไว้
สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกเป็นมิตรโดยทั่วไป แต่น้องจะคอยปกป้องครอบครัวและบ้านของน้อง และมักจะระแวดระวังคนแปลกหน้า สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกมีความแข็งแรงอดทน น้องต้องอดทนต่ออุณหภูมิสูง พื้นที่ขรุขระ และระยะทางที่ไกลในการทำงานในฟาร์ม ทำให้น้องทนต่อความเจ็บปวดได้ดีและมีสมาธิจดจ่อมาก น้องสามารถทำงานต่อไปแม้บาดเจ็บ เจ้าของต้องคอยระวังน้องให้ดีเพื่อให้แน่ใจว่าน้องจะหยุดทำงานหรือแข่งขันหากน้องเจ็บตัว
จุดเด่นของสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อก
ความฉลาด: สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกเป็นสุนัขที่ฉลาดมากและเรียนรู้ได้ง่าย น้องสามารถจำคำสั่งต่างๆได้หลากหลาย และรู้จักกันคิดแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี
ความภักดี: สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์มาก และเป็นเพื่อนที่ดี น้องจงรักภักดีต่อครอบครัวและ พร้อมจะปกป้องพวกเขาด้วยทุกอย่างที่มี
พลังงาน: สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกเป็นสุนัขที่กระฉับกระเฉงมาก และต้องออกกำลังกายเยอะ น้องไม่เหมาะกับการอยู่ในอพาร์ตเมนต์ น้องต้องการสนามกว้างๆ วิ่งเล่นให้เพลิน
สัญชาตญาณการต้อนฝูง: สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อก ถูกเพาะพันธุ์ขึ้นมาเพื่อต้อนฝูงวัวตั้งแต่แรก น้องยังคงมีสัญชาตญาณต้อนฝูงที่แรงกล้า น้องอาจจะพยายามต้อนสัตว์อื่นๆ รวมถึงเด็กๆและแมว
การฝึกฝน: สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกสามารถฝึกฝนได้ดีมาก แต่น้องต้องได้รับการฝึกฝนตั้งแต่เนิ่นๆและสม่ำเสมอ น้องอาจดื้อได้ในบางครั้ง แต่ถึงอย่างไรน้องก็พร้อมที่จะทำให้เจ้าของพอใจ
การทำความสะอาด: สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกต้องการการดูแลขนน้อย น้องควรถูกแปรงขนทุกสัปดาห์เพื่อกำจัดขนที่หลุดร่วงและสิ่งสกปรก ควรอาบน้ำเฉพาะเวลาจำเป็นเท่านั้น
สุขภาพ: โดยทั่วไปสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกเป็นสุนัขที่แข็งแรง แต่น้องอาจมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น ภาวะหัวกระดูกขาไม่เข้ากัน (hip dysplasia) ภาวะหัวกระดูกแขนไม่เข้ากัน (elbow dysplasia) และปัญหาดวงตา สิ่งสำคัญคือต้องพาเจ้าตูบสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์เป็นประจำ เพื่อที่จะได้ตรวจจับปัญหาสุขภาพแต่เนิ่นๆ
ประวัติของสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อก
สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อก ถูกเพาะพันธุ์ขึ้นโดยชาวออสเตรเลียในช่วงศตวรรษที่ 19 เพื่อใช้ต้อนฝูงวัวในฟาร์มขนาดใหญ่ สุนัขพันธุ์นี้มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เจ้าของฟาร์มขยายอุตสาหกรรมเนื้อวัวในออสเตรเลีย ด้วยการค่อยๆแต่แน่วแน่คอยดูแลควบคุมฝูงวัวที่บางครั้งควบคุมยาก เกือบจะเป็นวัวป่า ด้วยการกัดเบาๆ
สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกในปัจจุบันเป็นผลมาจากการผสมพันธุ์และข้ามสายพันธุ์มากมาย ผู้เลี้ยงวัวต้องการสุนัขที่แข็งแรงและสามารถรับมือกับสภาพอากาศและสภาพการทำงานที่โหดร้ายในออสเตรเลียได้ สุนัขที่นำมาจากอังกฤษในช่วงแรกนั้นไม่สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ จึงถูกนำมาผสมข้ามพันธุ์กับดิงโก้ท้องถิ่น
การผสมพันธุ์นับไม่ถ้วนโดยผู้เลี้ยงวัวหลายคนในท้ายที่สุดก็ได้สุนัขที่เชื่อกันว่าเป็นบรรพบุรุษของสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกในปัจจุบัน สุนัขสีน้ำเงินได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่เจ้าของฟาร์มและคนต้อนวัว จนได้ชื่อว่าบลูฮีลเลอร์ พวกมันได้รับความนิยมเป็นพิเศษในการต้อนวัวในรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งทำให้ได้ชื่อควีนส์แลนด์ฮีลเลอร์ หรือ ควีนส์แลนด์บลูฮีลเลอร์
ในปี ค.ศ. 1893 โรเบิร์ต คาเลสกี้ หันมาเพาะพันธุ์บลูฮีลเลอร์ และเริ่มนำพวกมันมาแสดงในปี ค.ศ. 1897 คาเลสกี้ร่างมาตรฐานสายพันธุ์ขึ้นมา โดยใช้ดิงโก้เป็นพื้นฐาน เพราะเชื่อว่านี่คือสายพันธุ์ที่เข้ากับธรรมชาติของออสเตรเลียอย่างลงตัว (สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกในปัจจุบันมีหน้าตาคล้ายดิงโก้มาก ยกเว้นสีขน)
เคนเนลคลับแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์อนุมัติมาตรฐานสายพันธุ์นี้ในปี ค.ศ. 1903 ในช่วงแรกเรียกสายพันธุ์นี้ว่าออสเตรเลียนฮีลเลอร์ ต่อมาเปลี่ยนเป็นสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อก ซึ่งเป็นชื่อที่ยอมรับกันอย่างเป็นทางการทั้งในออสเตรเลียและที่อื่นๆ อย่างไรก็ตาม บางคนยังคงเรียกพวกมันว่าบลูฮีลเลอร์ หรือ ควีนส์แลนด์ฮีลเลอร์อยู่
หลังจากอยู่ในกลุ่ม Miscellaneous Class ระยะหนึ่ง สมาคมอเมริกันเคนเนลคลับยอมรับการลงทะเบียนสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1980 และสามารถลงแข่งขันในกลุ่ม Working ได้ตั้งแต่เดือนกันยายน ค.ศ. 1980 ต่อมาสุนัขพันธุ์นี้ถูกย้ายไปยังกลุ่ม Herding ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1983
ขนาดของสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อก
สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกเพศผู้มีความสูงประมาณ 45.72 ถึง 50.8 เซนติเมตร ส่วนเพศเมียมีความสูงประมาณ 43.18 ถึง 48.26 เซนติเมตร มีน้ำหนักประมาณ 13.6 ถึง 22.7 กิโลกรัม
บุคลิกของสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อก
สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกเป็นสุนัขที่ต้องมีกิจกรรมทั้งร่างกายและจิตใจอยู่ตลอดเวลา หากน้องเบื่อหรือเหงา น้องอาจจะทำพฤติกรรมทำลายข้าวของ น้องชอบเคี้ยวและฉีกขาดสิ่งที่ไม่ควรเคี้ยว หากคุณตัดสินใจจะเลี้ยงสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อก เตรียมพร้อมที่จะทำให้น้องยุ่ง และเหนื่อย หากน้องเหนื่อย น้องจะไม่ค่อยหาเรื่องนัก
สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกจะปกป้องสิ่งที่น้องถือว่าเป็นอาณาเขตของน้อง และน้องจะปกป้องมัน น้องจะเงียบขรึม (แต่ไม่ได้ไม่เป็นมิตร) กับคนแปลกหน้า แต่น้องรักเจ้าของและครอบครัวของน้องมาก เมื่อน้องผูกพันกับใคร น้องก็ชอบที่จะไปที่ไหนก็ตามที่เจ้าของไป จริงๆแล้ว การลงโทษสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกคือการแยกน้องออกจากคนที่น้องรัก
น้องฉลาด แต่บางครั้งก็ดื้อและหัวแข็ง การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอด้วยวิธีบวกจะช่วยควบคุมความเป็นตัวของตัวเองของน้อง นิสัยของน้องได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย ทั้งกรรมพันธุ์, การฝึกฝน, และการขัดเกลาทางสังคม
เหมือนสุนัขทุกพันธุ์ สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกต้องได้รับการขัดเกลาทางสังคมตั้งแต่อายุน้อย น้องต้องได้รับประสบการณ์ที่หลากหลาย ได้พบกับผู้คน กลิ่น เสียง และสิ่งแปลกใหม่นานาชนิด ตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข การขัดเกลาทางสังคมจะช่วยให้แน่ใจว่าลูกสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกของคุณจะเติบโตขึ้นเป็นสุนัขที่มีบุคลิกดี การส่งน้องไปเรียนที่โรงเรียนลูกสุนัขเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมาก การชวนผู้คนมาที่บ้านบ่อยๆ พาน้องไปสวนสาธารณะที่มีผู้คนพลุกพล่าน ร้านค้าที่อนุญาตให้สุนัขเข้า และพาน้องเดินเล่นอย่างสบายๆในย่านบ้านเรือน ก็จะช่วยเสริมทักษะการเข้าสังคมของน้องได้เป็นอย่างดี
บุคลิกภาพทั่วไปสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อก
สุขภาพของสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อก
โดยทั่วไปสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกเป็นสายพันธุ์ที่แข็งแรง แต่เหมือนสุนัขทุกสายพันธุ์ มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคบางอย่าง สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกไม่ได้จะเป็นโรคเหล่านี้ทุกตัว แต่สิ่งสำคัญคือคุณต้องตระหนักถึงโรคเหล่านี้หากคุณกำลังพิจารณาจะเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้
โรคจอประสาทตาเสื่อมตามวัย (Progressive Retinal Atrophy หรือ PRA): นี่คือกลุ่มโรคทางสายตาที่เกี่ยวข้องกับการเสื่อมของจอประสาทตาตามวัย ในช่วงแรก สุนัขที่เป็นโรคจะมองไม่เห็นในที่มืด และจะค่อยๆสูญเสียการมองเห็นในเวลากลางวันเมื่อโรคลุกลาม สุนัขหลายตัวสามารถปรับตัวได้ดีกับการมองเห็นที่จำกัดหรือตาบอด ตราบใดที่สภาพแวดล้อมรอบตัวยังคงเหมือนเดิม
ภาวะหัวกระดูกขาไม่เข้ากัน (Hip Dysplasia): นี่คือภาวะทางพันธุกรรมที่กระดูกต้นขาไม่สามารถเข้ากันได้พอดีกับข้อต่อสะโพก สุนัขบางตัวแสดงอาการเจ็บและเดินกะเผลกที่ขาหลังข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง แต่บางตัวก็ไม่แสดงอาการไม่สบายออกมา (การถ่ายภาพรังสีเป็นวิธีที่แน่นอนที่สุดในการวินิจฉัยปัญหา) ไม่ว่าจะแบบไหน โรคข้อก็สามารถพัฒนาได้เมื่อสุนัขอายุมากขึ้น สุนัขที่เป็นโรคหัวกระดูกขาไม่เข้ากันไม่ควรถูกนำมาเพาะพันธุ์ ฉะนั้นถ้าคุณจะซื้อลูกสุนัข ให้ขอหลักฐานจากผู้ขายว่าพ่อแม่สุนัขได้รับการทดสอบและปลอดจากปัญหานี้
ภาวะหูหนวก: นี่คือภาวะทางพันธุกรรมในสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อก แต่สามารถตรวจได้ตั้งแต่ลูกสุนัขยังเล็กมาก สุนัขหูหนวกไม่ควรถูกเพาะพันธุ์ต่อ งานวิจัยชี้ว่าภาวะหูหนวกเกี่ยวข้องกับสีขน ยีนที่ทำให้ลูกสุนัขเกิดมาสีขาว หรือมีขนสีขาวแทรกในเฉดสีฟ้าเทาของสุนัข เชื่อมโยงกับภาวะหูหนวก การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองตอบสนองต่อการได้ยิน หรือ BAER เป็นประโยชน์ในการตรวจหาปัญหาการได้ยิน แต่เป็นเพียงเครื่องมือ ไม่ใช่การรักษา
โรคที่พบบ่อยของสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อก
การดูแลสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อก
สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกเป็นสุนัขทำงานที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่มีกิจกรรมกระตุ้นทั้งร่างกายและจิตใจอย่างเพียงพอ น้องไม่เหมาะกับการอยู่ในอพาร์ตเมนต์หรือถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพังเป็นเวลานาน น้องจะทำลายสิ่งของเวลาที่เบื่อ และชอบที่จะเคี้ยว เคี้ยวอะไรก็ได้ น้องต้องการบ้านที่มีสนามกั้นรอบขอบชิดปลอดภัย หรือฟาร์มหรือทุ่งหญ้ากว้างๆ
หากคุณกำลังพิจารณาจะเลี้ยงสุนัขบลูฮีลเลอร์ ให้แน่ใจว่าคุณสามารถหาทางออกที่เหมาะสมให้กับพลังงานและสติปัญญาอันล้นเหลือของน้องได้ เนื่องจากน้องถูกเพาะพันธุ์ขึ้นมาเพื่อต้อนและวิ่งไล่ นั่นคือสิ่งที่น้องจะทำ น้องจะต้อนและวิ่งไล่ทุกอย่าง รวมถึงรถยนต์ หากคุณไม่ได้เลี้ยงแกะหรือวัว ลองพิจารณากีฬาสำหรับสุนัขดู น้องชอบกิจกรรมและความท้าทายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับกีฬา
สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกต้องได้รับการขัดเกลาทางสังคมและการฝึกฝนตั้งแต่เนิ่นๆ เหมือนสุนัขทุกพันธุ์ น้องอาจขี้อายได้หากไม่ได้รับการขัดเกลาทางสังคมอย่างเหมาะสมเมื่ออายุยังน้อย นิสัยชอบใช้ปาก เคี้ยว กัด และงับ ของน้องต้องได้รับการจัดการอย่างระมัดระวัง น้องต้องเรียนรู้ที่จะไม่ใช้ปากกับคน ใช้กับของเล่นที่แข็งแรงเท่านั้น
การให้อาหารสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อก
ปริมาณอาหารที่แนะนำต่อวัน: อาหารเม็ดแห้งคุณภาพดี 1.5-2.5 ถ้วย แบ่งให้วันละสองมื้อ
ปริมาณอาหารที่สุนัขตัวโตกินขึ้นอยู่กับขนาด อายุ สัดส่วน เมตาโบลิซึม และระดับการออกกำลังกาย สุนัขก็เหมือนกับคน ไม่จำเป็นต้องกินอาหารในปริมาณเท่ากัน รักษารูปร่างที่ดีของสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกของคุณได้ด้วยการตวงอาหารและให้กินวันละสองมื้อ แทนที่จะปล่อยให้กินได้ไม่อั้น
หากไม่แน่ใจว่าน้องอ้วนไปหรือเปล่า ให้ลองทดสอบด้วยสายตาและการจับ วิธีแรก มองลงไปที่น้อง คุณควรจะเห็นเอวเข้ารูป วิธีที่สอง วางมือของคุณบนแผ่นหลังของน้อง โดยให้นิ้วโป้งอยู่ข้างกระดูกสันหลัง นิ้วมืออื่นๆกางออกไปด้านข้าง คุณควรจะรู้สึกโครงกระดูกซี่โครงได้ แต่ไม่เห็น โดยไม่ต้องกดแรง หากรู้สึกไม่ได้ แสดงว่าน้องต้องกินให้น้อยลงและออกกำลังกายให้มากขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องการให้อาหารสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อก ดูคำแนะนำของเราเกี่ยวกับการเลือกอาหารที่เหมาะสม, การให้อาหารลูกสุนัข, และการให้อาหารสุนัขโต
สีขนและการดูแลขนของสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อก
เฉดสีขนของสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกคือ สีน้ำเงิน (บลู) หรือ สีแดง (เรด) โดยสีน้ำเงินหรือลายจุดสีน้ำเงินจะมีสีดำ สีน้ำเงิน หรือสีน้ำตาลบนใบหน้า จะมีสีน้ำตาลบางส่วนบนขาหน้า อก และลำคอ และมีสีน้ำตาลบนขากรรไกรและขาหลัง บางครั้งขนชั้นในอาจจะเป็นสีน้ำตาลแต่ขนชั้นนอกเป็นสีน้ำเงิน ส่วนสุนัขที่มีลายจุดสีแดง หมายถึงจะมีสีแดงทั่วตัว รวมทั้งขนชั้นใน และอาจมีลายสีแดงเข้มบนใบหน้า
สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกไม่ต้องการการดูแลมากมาย แต่การแปรงขนบ้างก็มีความจำเป็นเพื่อให้น้องสะอาดและมีสุขภาพดี แปรงขนเป็นครั้งคราว ประมาณเดือนละ 4 ครั้ง เพื่อกระจายน้ำมันและกำจัดสิ่งสกปรกออก แต่ช่วงที่น้องกำลังผลัดขน ให้แปรงขนเพิ่มขึ้นเพื่อกำจัดขนที่หลุดร่วงออก อาบน้ำตามความจำเป็น เช่นตอนที่น้องสกปรกจริงๆหรือมีกลิ่นเหม็น
แปรงฟันให้สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกของคุณอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อกำจัดคราบหินปูนและแบคทีเรีย การแปรงฟันทุกวันจะช่วยป้องกันโรคเหงือกและกลิ่นปากได้ดีที่สุด
ตัดเล็บทุกเดือนหากสุนัขไม่ได้ใช้เท้าวิ่งจนเล็บสึกตามธรรมชาติ ถ้าได้ยินเสียงเล็บดังกุกกักบนพื้น แสดงว่าเล็บยาวไป เล็บที่สั้นและตัดแต่งดีแล้วช่วยให้อุ้งเท้าอยู่ในสภาพดี เล็บสุนัขมีหลอดเลือดอยู่ หากคุณตัดเล็บสั้นเกินไป อาจทำให้เกิดเลือดออก และน้องอาจไม่ให้ความร่วมมือในครั้งต่อไปที่เห็นกรรไกรตัดเล็บ ดังนั้นหากคุณไม่มีประสบการณ์ในการตัดเล็บสุนัข ให้ขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์หรือ groomer
ตรวจหูทุกสัปดาห์ดูความแดงหรือกลิ่นเหม็น ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการติดเชื้อ เมื่อคุณตรวจหูน้อง ให้ใช้สำลีชุบน้ำยาทำความสะอาดหูที่มีค่า pH สมดุลเช็ดหูด้านนอก เพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อ อย่าใส่อะไรลงไปในช่องหู เช็ดแค่ด้านนอกเท่านั้น
เริ่มฝึกให้สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกของคุณคุ้นเคยกับการแปรงขนและตรวจร่างกายตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข จับอุ้งเท้าบ่อยๆ เพราะสุนัขมักจะไวต่อการสัมผัสที่เท้า และมองดูในปาก ทำให้การทำความสะอาดเป็นประสบการณ์ที่ดี มีคำชมและรางวัลให้ แล้วคุณจะได้วางรากฐานให้การตรวจสุขภาพและการดูแลอื่นๆในวัยผู้ใหญ่เป็นไปได้โดยง่าย เมื่อคุณแปรงขนน้อง ให้ตรวจดูแผล ผื่น หรือสัญญาณการอักเสบ เช่น ผิวหนังแดง บวม อ่อนไหว ทั้งที่ผิวหนัง จมูก ปาก ตา และเท้า ตาควรใส ไม่แดงหรือมีขี้ตา การตรวจร่างกายประจำสัปดาห์อย่างละเอียดจะช่วยให้คุณสังเกตเห็นปัญหาสุขภาพได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
เด็กและสัตว์เลี้ยงตัวอื่น
สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกเป็นสุนัขที่เหมาะกับครอบครัว แต่น้องเข้ากับเด็กได้ดีที่สุดหากได้รับการเลี้ยงดูมาด้วยกันและยอมรับเด็กตั้งแต่เนิ่นๆว่าเป็นสมาชิกในครอบครัว ในกรณีนี้ น้องจะเป็นสุนัขที่ร่าเริงและช่างปกป้อง แต่นิสัยชอบใช้ปากของสายพันธุ์นี้ อาจเป็นปัญหากับเด็กได้ น้องอาจจะอยากต้อนเด็กๆด้วยการกัดเบาๆ หรือกัดเวลาเด็กๆเล่นแรงเกินไป
สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกโตที่ไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกับเด็กจะไม่รู้ว่าต้องปฏิบัติต่อเด็กอย่างไร และอาจเล่นแรงเกินไป สุนัขบางตัวอาจระแวงเด็ก เพราะเด็กไม่ได้ทำตัวเหมือนผู้ใหญ่ สุนัขจึงอาจมองเด็กเป็นภัยคุกคาม ปัญหาส่วนใหญ่แก้ได้โดยการขัดเกลาทางสังคมให้ลูกสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกคุ้นเคยกับเด็กๆอย่างระมัดระวัง และสอนการควบคุมการกัด
เหมือนกับสุนัขทุกสายพันธุ์ คุณควรสอนเด็กๆเสมอว่าจะเข้าหาและสัมผัสสุนัขอย่างไร และต้องคอยดูแลระหว่างที่สุนัขกับเด็กมีปฏิสัมพันธ์กัน เพื่อป้องกันไม่ให้ทั้งสองฝ่ายกัดหรือดึงหูดึงหางอีกฝ่าย สอนลูกของคุณว่าห้ามเข้าหาสุนัขในขณะที่กำลังกินอาหารหรือหลับ หรือพยายามแย่งอาหารสุนัข ไม่ว่าสุนัขจะเป็นมิตรแค่ไหน ก็ไม่ควรปล่อยให้อยู่กับเด็กตามลำพังโดยไม่มีผู้ใหญ่ดูแล
สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกเข้ากับสุนัขอื่นๆในบ้านได้ดี โดยเฉพาะหากได้รับการเลี้ยงดูมาด้วยกันตั้งแต่เป็นลูกสุนัข อย่างไรก็ตาม เนื่องจากน้องผูกพันกับคนๆเดียวในครอบครัวมาก อาจเกิดความหึงหวงหรือการทะเลาะกันระหว่างสุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกกับสุนัขตัวอื่นได้
ส่วนเรื่องแมวและสัตว์เลี้ยงตัวเล็กอื่นๆที่สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกมักมองเป็นเหยื่อ หากน้องได้รับการเลี้ยงดูมากับแมวหรือสัตว์อื่นๆตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข น้องก็น่าจะถือว่าพวกมันเป็นสมาชิกในครอบครัวและไม่ทำอันตราย แต่ถ้าไม่ น้องมีแนวโน้มที่จะไล่ล่า จับ และอาจฆ่าพวกมัน
สรุป
สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกเป็นสุนัขที่แข็งแรง กระฉับกระเฉง และทุ่มเทให้กับเจ้าของและครอบครัวอย่างเต็มที่ แต่อาจไม่สนใจคนอื่นๆมากนัก น้องมีปัญญาสูง มีความสามารถในการทำงานที่ยอดเยี่ยม และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆเสมอ แต่น้องก็เป็นสุนัขที่มีพลังงานสูงและต้องการการออกกำลังกายทั้งร่างกายและจิตใจอย่างมาก ถ้าไม่ได้ออกกำลังเพียงพอ น้องอาจหาทางออกให้พลังงานที่มากล้นด้วยการกระทำซนๆ ถ้าคุณมีพื้นที่ให้น้องได้วิ่งเล่น และถ้าคุณสามารถฝึกฝนน้องด้วยความรักและความอดทน สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกอาจเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์และสนุกสนานให้กับคุณได้หลายปี
สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกมีนิสัยเฉพาะตัวหลายประการ แม้จะเป็นสุนัขที่เข้ากับผู้คนได้ดี แต่น้องก็มีความเป็นอิสระอยู่เหมือนกัน น้องต้องการผู้เลี้ยงที่หนักแน่น ใจเย็น และเข้มงวดในการฝึกฝน ถ้าคุณให้ความรักความเอาใจใส่น้องอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการฝึกฝนและการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม สุนัขออสเตรเลี่ยน แคทเทลด็อกจะเป็นสมาชิกที่น่ารักของครอบครัว และเป็นเพื่อนซี้ของคุณไปตลอดชั่วชีวิต
น้องหมาอยากบอก
เจ้านายที่รักจ๋า อย่าลืมซื้ออาหารอร่อยๆ ให้หนูนะ น้องหิวแล้ว แล้วอย่าลืมของเล่นสนุกๆที่น้องชอบด้วยล่ะ และขอขนมแสนอร่อยที่หนูชื่นชอบด้วยนะโฮ่ง มันช่วยให้มีความสุขและพลังงานเต็มเปี่ยม อ้อ…อย่าลืมถุงเก็บอึสะอาดๆ ด้วยล่ะ ช่วยให้น้องขับถ่ายถูกที่ เจ้าของก็สบายใจ หนูรอของดีๆ จากเจ้านายอยู่นะ ปล.ถ้าไม่มีของพวกนี้ให้ หนูจะงอนเอานะ แต่เอ…จำไม่ได้ว่าบ้านเราใช้ยี่ห้อไหน เจ้านายที่รักลองกดเช็คของเลยนะครับ โบ๊ะ โบ๊ะ
Reference: แหล่งที่มา
Kawaiibear.com เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงแสนรัก ใจกลางภารกิจของเราคือความมุ่งมั่นในการให้ข้อมูล และคำแนะนำที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ทีมงานของเราประกอบด้วยกลุ่มคนที่รักสัตว์ที่พร้อมให้ข้อมูลและคำแนะนำที่มีคุณภาพ ภารกิจของเราเริ่มต้นจากวิสัยทัศน์ในการสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้รักสัตว์สามารถพึ่งพาได้ ในการค้นหาข้อมูลและผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับเพื่อนรักสี่ขา เราเข้าใจถึงความแตกต่างในความต้องการของสัตว์เลี้ยงแต่ละชนิด เราจึงทุ่มเทในการให้นำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ เราเจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์และข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง เพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุม ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่เว็บไซต์ แต่เป็นชุมชนของผู้ที่รักสัตว์ และต้องการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสัตว์เลี้ยงแสนรัก และเต็มไปด้วยความสุขสำหรับทุกคน
